อาชีพอิสระซื้อง่าย ขายคล่อง ธุรกิจยอดฮิต ร้านค้าราคาเดียว ลงทุนแบบไหน ที่ใช่ตัวคุณ?
ปัจจุบันผู้เล่นในธุรกิจสินค้าราคาเดียวมีอยู่หลากหลายกลุ่ม โดยกลุ่มหลัก ๆ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1. ผู้ค้าส่ง โลกยุคการค้าเสรีทำให้การส่งออก-นำเข้าสินค้าเป็นเรื่องง่ายดาย
ผู้ค้าส่งตีตั๋วบินไปต่างประเทศ
คัดเลือกและนำเข้าสินค้าจากโรงงานมาครั้งละตู้คอนเทนเนอร์
โดยประเทศจีนถือเป็นตลาดใหญ่เนื่องจากเมืองจีนเป็นแหล่งผลิตสินค้าราคาถูก
แต่สำหรับคุณภาพก็ต้องคัดสรรกันหน่อย นอกเหนือจากนั้นก็เป็นสินค้าจากญี่ปุ่น
เกาหลี รวมทั้งสินค้าในบ้านเราเอง คัดสรรมาให้ลูกค้าผู้ค้าปลีกได้นำสินค้าไปนำหน่ายทำกำไรต่อ
การตอบรับที่ดีในคอนเซ็ปต์ทุกอย่าง 20 บาท ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดค้าส่งเทน้ำหนักไปที่สินค้าที่ตอบโจทย์ธุรกิจนี้มากยิ่งขึ้น
2.เจ้าของแฟรนไชส์ค้าปลีก
ที่ผ่านมามีผู้ค้าส่งจำนวนไม่น้อย เห็นโอกาสในการขายสินค้ามากขึ้น
จึงพัฒนาตัวเองมาจากธุรกิจค้าส่งขยายไลน์มาสู่หน้าร้านค้าปลีกภายใต้คอนเซ็ปต์ทุกอย่าง
20 บาท แล้วเริ่มต้นสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก
ก่อนจะเปิดโอกาสให้ผู้สนในลงทุนในรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในรูปแบบหน้าร้าน
รถร้านค้า หรือศูนย์กระจายสินค้า
โดยผู้ที่ลงทุนเป็นแฟรนไชส์ซีก็จะได้ราคาขายส่งที่พิเศษกว่าผู้ประกอบการทั่วไป
เป็นแรงจูงใจในการทำธุรกิจ
3. มาสเตอร์แฟรนไชส์จากต่างประเทศ
แม้กระทั่งผู้ประกอบการบริษัทรายใหญ่ก็ยังศึกษาและให้ความสนใจกับตลาดนี้
โดยเลือกจับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารร้านค้าราคาเดียวในต่างประเทศ
เพื่อเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ พร้อมสิทธิ์ในการขยายสาขาและทำการตลาดในไทย
ภายใต้แบรนด์ร้านค้าซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี เช่น ไดโซ โคโมโนยะ โตคูยะ
แบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น ที่จำหน่ายสินค้าทุกชิ้น 60 บาท
สำหรับการขยายสาขามีทั้งที่บริษัทเป็นผู้ขยายเองในทำเลที่มีศักยภาพ
รวมทั้งเปิดให้ผู้ประกอบการทั่วไปที่มีทุนหนามาร่วมลงทุนทำธุรกิจที่เต็มไปด้วยโอกาส
4. ผู้ค้าปลีก
แต่ก่อนผู้ประกอบการนิยมเลือกซื้อสินค้าเพื่อนไปจำหน่ายขายปลีก ณ
หน้าร้านของตนเอง โดยกำหนดราคาขายเอง
แต่ในปัจจุบันเราจะเห็นการเปิดร้านขายสินค้าในคอนเซ็ปต์ทั้งร้านราคาเดียวมากขึ้น
เนื่องจากขายง่ายกว่า มีสินค้าใหม่ ๆ หมุนเวียนภายในร้านตลอดเวลา
หรือเลือกลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์กับแบรนด์ร้านค้าที่มีชื่อเสียง
ก่อนเลือกลงทุน รู้เขา รู้เรา ไร้ความเสี่ยง
สำหรับผู้ที่สนใจจะขายปลีกสินค้าราคาเดียว
ปัจจุบันในท้องตลาดจะเห็นการลงทุนอยู่ 2 รูปแบบ คือ
พ่อค้าแม่ค้าไปหาซื้อสินค้าจากแต่ละแหล่งมาขึ้นป้ายขายเองทุกอย่างราคาเดียว
อีกรูปแบบจะเป็นการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์
ซึ่งแต่ละบริษัทต่างก็สร้างแบรนด์กันอย่างแข็งขันเพื่อก้าวเป็นผู้นำในตลาด
และมีข้อคิดก่อนการตัดสินใจลงทุนดังนี้
ไม่ว่าจะเลือกลงทุนแบบใด
ลูกค้าก็ควรศึกษาและทำความรู้จักกับบริษัทแฟรนไชส์หรือผู้ค้าส่งให้ดี
แม้ทุกวันนี้การสั่งซื้อสินค้าจะง่ายดาย
เพียงแค่คลิ๊กเลือกจากแคตตาล็อกทางอินเตอร์เน็ต
แต่อย่างน้อยผู้ลงทุนก็ควรจะขอเข้ามาดูที่โกดังสินค้าซักครั้งหนึ่ง
เพื่อดูว่าบริษัทนี้มีตัวตนอยู่จริง มีความมั่นคง เชื่อถือได้ มีทีมงานพร้อม
มีการทำงานที่เป็นระบบ ให้ความสำคัญกับการคัดแยก จัดเก็บสินค้า
เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าธุรกิจที่เรากำลังจะทำต่อจากนี้ มีมืออาชีพ
อยู่เบื้องหลังที่พร้อมสนับสนุนเรา จากนั้นจะสั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ตหรือช่องทางอื่น
ๆ ก็ไม่ว่ากัน
เหนืออื่นใดคือ ตัวผู้ลงทุนเองจะต้องถามตัวเองด้วยว่า
มีความพร้อมและยอมรับความเสี่ยงของธุรกิจนี้ไดมากน้อยแค่ไหน
มีใจรักในการค้าขายหรือไม่ มีเงินทุนเพียงพอหรือไม่ มีทำเลหรือยัง
มีบุคลากรพร้อมไหม และมีความอดทน สู้ไม่ถอยหรือไม่ หากยังไม่มั่นใจในข้อใดข้อหนึ่ง
อาจต้องติดเบรกตัวเองไว้ก่อน แต่หากมีความพร้อมเต็มร้อยทั้งกายและใจ
และปัจจัยรอบด้าน ก็ก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จกันได้เลย
อ่านต่อ >> มินิซีรีย์ ธุรกิจร้านค้าราคาเดียว ตอนที่ 3
ที่มาบทความ นิตยสารเถ้าแก่ใหม่