อาชีพเสริม: "กระป๋องน้ำอัดลม" วัสดุเหลือใช้ที่หลายคนทิ้งขว้างไว้ให้กลายเป็นขยะ กลับมีมูลค่าในสายตาของ "ชัยยุทธ อัครภูวดล" หรือ "หงา" นักประดิษฐ์มือใหม่ที่มีไอเดียสร้างสรรค์ นำกระป๋องน้ำอัดลมมาดัดแปลงเป็นงานแฮนด์เมดที่มีมูลค่าเพิ่ม
คุณชัยยุทธ บอกถึงที่มาของงานไอเดียจากกระป๋องน้ำอัดลมว่า "เกิดจากคนที่รู้จักกันนำมาให้ลองทำ เพราะวันจันทร์-ศุกร์ ผมจะอยู่ว่างๆ ตอนแรกที่ทำก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะกระป๋องหรืออุปกรณ์ต่างๆ คนที่รู้จักกันก็จัดหามาให้ เราแค่ลองทำอย่างเดียวแล้วนำไปขาย
อาทิตย์แรกขายได้สองพันกว่าบาท เราเริ่มมีแรงบันดาลใจ เพราะทุกอย่างลงทุนน้อยแต่ผลตอบแทนดีมาก พอทำมาสักพักก็ได้รับออเดอร์เป็นนาฬิกาและรถตุ๊กๆ กระป๋อง รวมแล้วเป็นเงิน 20,000 บาท
จึงเริ่มทำอย่างจริงจังมากขึ้นและได้ออเดอร์มาตลอด จนมีลูกค้าประจำ"
ปัจจุบันสินค้าของทางร้านมีให้เลือกทั้งนาฬิกาและรถตุ๊กๆ กระป๋อง สนนราคาขายรถตุ๊กๆ คันละ 50 บาท และด้วยข้อจำกัดด้านกำลังการผลิตจึงมีสินค้าให้เลือกไม่มากแบบนัก เนื่องจากผลิตสินค้าได้ไม่ทันตามความต้องการของลูกค้า อีกทั้งต้องสรรหาลวดลายกระป๋องที่แปลกใหม่อยู่เสมอ
ทว่าในอนาคตอันใกล้ คุณชัยยุทธมีแนวคิดว่าจะทำเป็นรถ vespa ซึ่งคิดว่าน่าจะขายในราคาคันละ 100 บาท ส่วนสินค้าที่ขายดีจะเป็นนาฬิกากระป๋อง ซึ่งมีจุดเด่นคือ เป็นนาฬิกาที่สามารถตั้งปลุกได้ และมีรูปแบบที่น่ารัก เช่น แบบยืนธรรมดา แบบwheelchair และแบบหูฟัง
กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ โดยทางร้านจะมีบริการหลังการขายคือ หากเป็นลูกค้าต่างจังหวัดหรือเป็นชาวต่างชาติ จะมีบริการจัดส่งทาง cargo ให้
นอกจากนี้ ทางร้านยังสามารถรับออร์เดอร์ตามความต้องการของลูกค้าได้อีกด้วย ความยากง่ายในการผลิตสินค้านั้นคุณชัยยุทธบอกว่า "ความยากง่ายอยู่ที่ความสวยงาม คือต้องทำออกมาให้สวยงามและตั้งใจทำทุกชิ้นให้ดีที่สุด ซึ่งสินค้าประเภทนี้มีคู่แข่งค่อนข้างมาก แต่คู่แข่งก็เริ่มลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะลูกค้าจะคำนึงถึงเรื่องราคาก่อนเสมอ และคู่แข่งมักขายในราคาที่สูงเกิน"
แนวคิดในการสร้างสรรค์สินค้าใหม่ ๆ นั้น คุณชัยยุทธบอกว่าส่วนใหญ่จะได้มาจากการมองสิ่งต่างๆ รอบตัวแล้วนำมาประยุกต์ในการผลิตสินค้ารูปใหม่ออกมา ส่วนใครที่คิดอยากทำธุรกิจเป็นของตัวเอง คุณชัยยุทธแนะนำว่า "การที่จะเริ่มทำธุรกิจของตนเองนั้น ต้องลองคิดหาความต่างจากคนอื่น หากเราขายของเหมือนคนอื่น หรือสินค้าของเราไม่มีความเป็นเอกลักษณ์เพียงพอ เดินไปทางไหนก็หาซื้อได้ เราจะไม่มีทางเป็นที่ต้องการของลูกค้าได้เลย
ส่วนเรื่องราาคาสินค้าก็เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะเวลานี้ทุกคนพยายามที่จะประหยัด ถ้าเราขายสินค้าหรือขายไอเดียร์ที่เป็นเอกลักษณ์ และมีราคาที่ไม่สูงเกิน สินค้าของเราก็จะขายได้ไม่ยากนัก ส่วนใครที่กำลังรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวัง อยากบอกว่าในชีวิตของทุกคนต้องผ่านคำว่าท้อแท้มา แต่จะอยู่กับมันหรือจะเรียนรู้มันเท่านั้นเอง"
คุณชัยยุทธ บอกถึงที่มาของงานไอเดียจากกระป๋องน้ำอัดลมว่า "เกิดจากคนที่รู้จักกันนำมาให้ลองทำ เพราะวันจันทร์-ศุกร์ ผมจะอยู่ว่างๆ ตอนแรกที่ทำก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะกระป๋องหรืออุปกรณ์ต่างๆ คนที่รู้จักกันก็จัดหามาให้ เราแค่ลองทำอย่างเดียวแล้วนำไปขาย
อาทิตย์แรกขายได้สองพันกว่าบาท เราเริ่มมีแรงบันดาลใจ เพราะทุกอย่างลงทุนน้อยแต่ผลตอบแทนดีมาก พอทำมาสักพักก็ได้รับออเดอร์เป็นนาฬิกาและรถตุ๊กๆ กระป๋อง รวมแล้วเป็นเงิน 20,000 บาท
จึงเริ่มทำอย่างจริงจังมากขึ้นและได้ออเดอร์มาตลอด จนมีลูกค้าประจำ"
ปัจจุบันสินค้าของทางร้านมีให้เลือกทั้งนาฬิกาและรถตุ๊กๆ กระป๋อง สนนราคาขายรถตุ๊กๆ คันละ 50 บาท และด้วยข้อจำกัดด้านกำลังการผลิตจึงมีสินค้าให้เลือกไม่มากแบบนัก เนื่องจากผลิตสินค้าได้ไม่ทันตามความต้องการของลูกค้า อีกทั้งต้องสรรหาลวดลายกระป๋องที่แปลกใหม่อยู่เสมอ
ทว่าในอนาคตอันใกล้ คุณชัยยุทธมีแนวคิดว่าจะทำเป็นรถ vespa ซึ่งคิดว่าน่าจะขายในราคาคันละ 100 บาท ส่วนสินค้าที่ขายดีจะเป็นนาฬิกากระป๋อง ซึ่งมีจุดเด่นคือ เป็นนาฬิกาที่สามารถตั้งปลุกได้ และมีรูปแบบที่น่ารัก เช่น แบบยืนธรรมดา แบบwheelchair และแบบหูฟัง
กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ โดยทางร้านจะมีบริการหลังการขายคือ หากเป็นลูกค้าต่างจังหวัดหรือเป็นชาวต่างชาติ จะมีบริการจัดส่งทาง cargo ให้
นอกจากนี้ ทางร้านยังสามารถรับออร์เดอร์ตามความต้องการของลูกค้าได้อีกด้วย ความยากง่ายในการผลิตสินค้านั้นคุณชัยยุทธบอกว่า "ความยากง่ายอยู่ที่ความสวยงาม คือต้องทำออกมาให้สวยงามและตั้งใจทำทุกชิ้นให้ดีที่สุด ซึ่งสินค้าประเภทนี้มีคู่แข่งค่อนข้างมาก แต่คู่แข่งก็เริ่มลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะลูกค้าจะคำนึงถึงเรื่องราคาก่อนเสมอ และคู่แข่งมักขายในราคาที่สูงเกิน"
แนวคิดในการสร้างสรรค์สินค้าใหม่ ๆ นั้น คุณชัยยุทธบอกว่าส่วนใหญ่จะได้มาจากการมองสิ่งต่างๆ รอบตัวแล้วนำมาประยุกต์ในการผลิตสินค้ารูปใหม่ออกมา ส่วนใครที่คิดอยากทำธุรกิจเป็นของตัวเอง คุณชัยยุทธแนะนำว่า "การที่จะเริ่มทำธุรกิจของตนเองนั้น ต้องลองคิดหาความต่างจากคนอื่น หากเราขายของเหมือนคนอื่น หรือสินค้าของเราไม่มีความเป็นเอกลักษณ์เพียงพอ เดินไปทางไหนก็หาซื้อได้ เราจะไม่มีทางเป็นที่ต้องการของลูกค้าได้เลย
ส่วนเรื่องราาคาสินค้าก็เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะเวลานี้ทุกคนพยายามที่จะประหยัด ถ้าเราขายสินค้าหรือขายไอเดียร์ที่เป็นเอกลักษณ์ และมีราคาที่ไม่สูงเกิน สินค้าของเราก็จะขายได้ไม่ยากนัก ส่วนใครที่กำลังรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวัง อยากบอกว่าในชีวิตของทุกคนต้องผ่านคำว่าท้อแท้มา แต่จะอยู่กับมันหรือจะเรียนรู้มันเท่านั้นเอง"