อาชีพเสริม อาชีพอิสระขายผลไม้สดตามฤดูกาล อาชีพธรรมดา....แต่รายได้ไม่ธรรมดา
สวัสดีครับ เพื่อนๆ คุณผู้อ่านทุกท่าน เมืองไทยของเราขึ้นชื่อได้ว่าเป็นเมืองแห่งผลไม้ มีผลไม้หลากหลายชนิด มีมากมายให้เลือกซื้อหามารับประทาน และมีผลไม้ให้ได้ลิ้มชิมรสตลอดทั้งปี และที่สำคัญผลไม้ชนิดต่าง ๆ ของไทยเรานั้นก็มีราคาไม่แพง สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป
แต่ยังมีความลับที่แม่ค้า แม่ขาย ผลไม้ไม่ได้บอกเราก็คือ ผลกำไรที่ได้จากการขายผลไม้นั้นค่อนข้างดี ถือว่ามีกำไรต่อหน่วยค่อนข้างมาก และทำให้พ่อค้าแม่ค้าผลไม้สดหลายต่อหลายคน ค้าขายจนเป็นเศรษฐีกันมาแล้ว
อาชีพอิสระ หรือ อาชีพเสริม “ขายผลไม้สด” ตามแผง ใครอาจมองเป็นอาชีพธรรมดา หากแต่ถ้าผู้ค้ารู้จักคิดพลิกแพลงให้เข้ากับเทศกาล รู้จักสร้างจุดขาย อาชีพอิสระที่แสนะธรรมดาที่ว่านี้ก็อาจจะกลายเป็นช่องทางสร้างกำไรได้อย่างน่าสนใจ วันนี้ผมขอนำเอาเรื่องราวของแม่ค้าผลไม้ มานำเสนอให้กับคุณผู้อ่านทุกท่านกันครับ
“สถาพร เนตรไพบูลย์” แม่ค้าผลไม้ หน้าตลาดน้ำดอนหวายรายนี้...
สถาพร แม่ค้าผลไม้วัย 42 ปี ซึ่งยึดอาชีพขายผลไม้มา 20 กว่าปีเล่าว่า เริ่มขายผลไม้แห่งแรกที่หน้าสวนสามพรานมาได้ 7-8 ปี จึงเพิ่มสาขาอีกแห่งไปขายที่บริเวณวัดไร่ขิง โดยขายอยู่ที่นี่ประมาณ 8-9 ปี หลังจากนั้นจึงขยับขยายอีกครั้งโดยมาลงเอยที่ตลาดริมน้ำดอนหวาย แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของ จ.นครปฐม ในปัจจุบัน
ผลไม้ในร้านที่ขายอยู่เป็นประจำก็จะมี อาทิ แอปเปิ้ล ส้มเขียวหวาน ส้มจีน สตรอเบอรี่ ลูกพลับทั้งชนิดสดและแห้ง องุ่นนำเข้า แก้วมังกร มะม่วงเขียวเสวย มะม่วงน้ำดอกไม้ ฟักทองและฟักเงิน ทับทิมสเปน มะเขือเทศราชินี สาลี่หิมะ สาลี่น้ำผึ้ง พุทราจัมโบ้ มะขามหวาน และมะขามเทศ เป็นต้น
นอกจากนี้ก็อาจรับผลไม้ที่กำลังนิยม หรือเป็นผลไม้เฉพาะฤดูกาล มาขายเพิ่มในแต่ละช่วง
อาชีพอิสระ นี้แหล่งซื้อผลไม้ที่เป็นแหล่งประจำถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะนอกจากสามารถเลือกคุณภาพได้แล้ว ยังสามารถต่อรองราคาได้อีกด้วย โดยแหล่งซื้อผลไม้ที่รายนี้ซื้ออยู่เป็นประจำคือที่ตลาดมงคล ใน จ.นครปฐม
“ข้อดีของการซื้อร้านประจำก็คือจะเชื่อถือได้มากกว่า แม่ค้าไม่กล้ายัดผลไม้เกรดไม่ดีมาให้ แถมบางครั้งยังได้ผลไม้ที่สวยและสดกว่าใคร ส่วนคนที่ไม่มีร้านประจำแนะนำว่าให้ลองเลือกซื้อจากร้านขายส่งใหญ่ ๆ ก่อน เพราะถ้าไม่ดีก็ยังพอจะพูดคุยหรือเปลี่ยนได้” แม่ค้าผลไม้แนะนำเคล็ดลับ
ในสัปดาห์หนึ่งจะต้องออกไปซื้อของ 2-3 ครั้ง โดยทุนหมุนเวียนแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับขนาดของแผงและผลไม้ที่ซื้อมาว่าเป็นฤดูของผลไม้ชนิดนั้นหรือเปล่า โดยราคาตลาดในแต่ละช่วงจะมีผลทำให้ต้นทุนถูกลงหรือแพงขึ้น ส่วนการตั้งราคาขายหน้าแผง สมมุติซื้อส้มมาขายกิโลกรัมละ 12 บาท ราคาวางขายวันแรกนั้นต้องบวกเพิ่มไปอีก 1 เท่าตัว คือขายกิโลกรัมละ 24 บาท เพื่อคืนทุน จากนั้นจะค่อย ๆ ลดราคาลงมาอีกประมาณกิโลกรัมละ 3-5 บาท
สาเหตุที่ราคาขาย-กำไรลดลง ก็เนื่องจากผลไม้ค้างอยู่กับแผงนาน ทำให้ความสดจะสู้ในวันแรก ๆ ไม่ได้ ทำให้ต้องลดราคาลงเพื่อรีบขายออกจากร้านก่อนที่ผลไม้จะเหี่ยวเฉาหรือเสีย
“ถ้าวันเดียวขายหมดเลย จะเห็นกำไรแน่นอน ตกอยู่ที่ประมาณ 60-70% ของเงินทุน แต่ถ้าผลไม้ยังไม่หมด แต่อยู่ในช่วง 2-3 วัน กำไรก็จะลดลงเหลือเพียงประมาณ 40-50% ของเงินทุน”
การเก็บรักษาผลไม้สำหรับขายถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญในการประกอบอาชีพนี้ แม่ค้าผลไม้คนเดิมแนะเคล็ดลับของเธอให้ฟังว่า ถ้าเป็นผลไม้ที่ไม่จำเป็นต้องรักษาอุณหภูมิ เช่น ส้ม มะม่วง แก้วมังกร ก็สามารถเก็บลงลังแล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อหรือคลุมได้เลย แต่หากเป็นผลไม้ที่ต้องรักษาอุณหภูมิหรือต้องแช่เย็น อาทิ สตรอเบอรี่ ลูกพลับสด องุ่น มะเขือเทศราชินี สาลี่หิมะ พุทราจัมโบ้ เป็นต้น ก็ต้องใช้ลังพลาสติกสำหรับแช่หรือตู้แช่ผลไม้
สำหรับวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำอาชีพขายผลไม้นั้น เธอบอกว่าใช้ทุนเพียงประมาณ 2,500 บาท โดยมีเพียงกระด้งหรือกระจาดสำหรับใส่ผลไม้ตามชนิดเพื่อขาย, ลังพลาสติกหรือเข่งบรรจุผลไม้, ตาชั่งน้ำหนัก, ถุงพลาสติกบรรจุผลไม้สำหรับลูกค้า ซึ่งควรมีหลายขนาด, ร่มกันแดด และฝักบัวรดน้ำ สร้างความชุ่มชื้นให้ผลไม้
เคล็ดลับในการจัดหน้าร้านหรือวางผลไม้บนแผงก็สำคัญ เธอบอกว่าเทคนิคของที่ร้านจะใช้กระด้งและกระจาด โดยนำกระจาดก้นลึกคว่ำลงบนกระด้ง จากนั้นจัดผลไม้ให้วางเป็นรูปทรงพีระมิด โดยจะจัดเรียงชนิดละ 1 กระด้ง จะไม่นำมาปนกัน จากนั้นใช้ลังผลไม้ตั้งซ้อนเรียงกันเป็นขั้นบันไดสำหรับวางกระด้งผลไม้
“การจัดแบบนี้ผลไม้จะไม่ทับ ไม่ซ้อน ทำให้ไม่ช้ำ ที่สำคัญยังสะดวกแก่ลูกค้าเวลาเลือกซื้ออีกด้วย หากต้องการเพิ่มความสวยงามให้ดูน่ามองก็ให้ใช้ใบไม้มาแซมตกแต่ง การขายผลไม้จะต้องขยันจัดเรียงและพรมน้ำบ่อย ๆ ใช้น้ำพรมให้ผลไม้ดูสดใหม่น่าทาน และยังได้ราคาดีอีกด้วย”
แม่ค้าคนเดิมกล่าวอีกว่า อาชีพขายผลไม้นั้นแม้จะถูกมองว่าเป็นอาชีพค้าขายธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรก็จำเป็นต้องใส่ใจทั้งสิ้น ที่สำคัญยังต้องรู้จักพลิกแพลงดัดแปลง เพื่อให้สินค้าสามารถขายได้ ซึ่ง “การรับจัดกระเช้า” ก็ถือว่าเป็นอีกบริการที่ช่วยเสริม และเพิ่มรายได้ให้กับอาชีพนี้ได้เป็นอย่างดี
“ที่ร้านก็จะรับจัดกระ เช้าให้ลูกค้าในช่วงเทศกาลต่าง ๆ อาทิ ปีใหม่ ตรุษจีน โดยลูกค้าอาจเป็นคนเลือกหรืออาจให้เราเลือกจัดผลไม้ให้เหมาะสมตามงบประมาณที่ลูกค้าต้องการ ถือว่าเป็นบริการเสริม และเป็นช่องทางเพิ่มรายได้พิเศษเข้าร้านได้อีกทาง” สถาพรกล่าว
เพื่อน ๆ คุณผู้อ่านจะสังเกตเห็นได้ว่า ถึงแม้อาชีพขายผลไม้จะเป็นอาชีพอิสระดั้งเดิมที่มีมายาวนานตั้งแต่โบราณ แต่ก็ยังไม่สูญหาย และที่สำคัญสามารถทำเป็นอาชีพอิสระ หรืออาชีพเสริม สร้างรายได้ ได้เป็นอย่างดี หากมีทำเลที่ตั้งร้านอยู่ในย่านชุมชน ก็สามารถขายดี ได้กำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำกันเลยครับ
ไปหน้าแรก อาชีพเสริมหลังเลิกงานรายได้ดี
สวัสดีครับ เพื่อนๆ คุณผู้อ่านทุกท่าน เมืองไทยของเราขึ้นชื่อได้ว่าเป็นเมืองแห่งผลไม้ มีผลไม้หลากหลายชนิด มีมากมายให้เลือกซื้อหามารับประทาน และมีผลไม้ให้ได้ลิ้มชิมรสตลอดทั้งปี และที่สำคัญผลไม้ชนิดต่าง ๆ ของไทยเรานั้นก็มีราคาไม่แพง สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป
แต่ยังมีความลับที่แม่ค้า แม่ขาย ผลไม้ไม่ได้บอกเราก็คือ ผลกำไรที่ได้จากการขายผลไม้นั้นค่อนข้างดี ถือว่ามีกำไรต่อหน่วยค่อนข้างมาก และทำให้พ่อค้าแม่ค้าผลไม้สดหลายต่อหลายคน ค้าขายจนเป็นเศรษฐีกันมาแล้ว
อาชีพอิสระ หรือ อาชีพเสริม “ขายผลไม้สด” ตามแผง ใครอาจมองเป็นอาชีพธรรมดา หากแต่ถ้าผู้ค้ารู้จักคิดพลิกแพลงให้เข้ากับเทศกาล รู้จักสร้างจุดขาย อาชีพอิสระที่แสนะธรรมดาที่ว่านี้ก็อาจจะกลายเป็นช่องทางสร้างกำไรได้อย่างน่าสนใจ วันนี้ผมขอนำเอาเรื่องราวของแม่ค้าผลไม้ มานำเสนอให้กับคุณผู้อ่านทุกท่านกันครับ
“สถาพร เนตรไพบูลย์” แม่ค้าผลไม้ หน้าตลาดน้ำดอนหวายรายนี้...
สถาพร แม่ค้าผลไม้วัย 42 ปี ซึ่งยึดอาชีพขายผลไม้มา 20 กว่าปีเล่าว่า เริ่มขายผลไม้แห่งแรกที่หน้าสวนสามพรานมาได้ 7-8 ปี จึงเพิ่มสาขาอีกแห่งไปขายที่บริเวณวัดไร่ขิง โดยขายอยู่ที่นี่ประมาณ 8-9 ปี หลังจากนั้นจึงขยับขยายอีกครั้งโดยมาลงเอยที่ตลาดริมน้ำดอนหวาย แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของ จ.นครปฐม ในปัจจุบัน
ผลไม้ในร้านที่ขายอยู่เป็นประจำก็จะมี อาทิ แอปเปิ้ล ส้มเขียวหวาน ส้มจีน สตรอเบอรี่ ลูกพลับทั้งชนิดสดและแห้ง องุ่นนำเข้า แก้วมังกร มะม่วงเขียวเสวย มะม่วงน้ำดอกไม้ ฟักทองและฟักเงิน ทับทิมสเปน มะเขือเทศราชินี สาลี่หิมะ สาลี่น้ำผึ้ง พุทราจัมโบ้ มะขามหวาน และมะขามเทศ เป็นต้น
นอกจากนี้ก็อาจรับผลไม้ที่กำลังนิยม หรือเป็นผลไม้เฉพาะฤดูกาล มาขายเพิ่มในแต่ละช่วง
อาชีพอิสระ นี้แหล่งซื้อผลไม้ที่เป็นแหล่งประจำถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะนอกจากสามารถเลือกคุณภาพได้แล้ว ยังสามารถต่อรองราคาได้อีกด้วย โดยแหล่งซื้อผลไม้ที่รายนี้ซื้ออยู่เป็นประจำคือที่ตลาดมงคล ใน จ.นครปฐม
“ข้อดีของการซื้อร้านประจำก็คือจะเชื่อถือได้มากกว่า แม่ค้าไม่กล้ายัดผลไม้เกรดไม่ดีมาให้ แถมบางครั้งยังได้ผลไม้ที่สวยและสดกว่าใคร ส่วนคนที่ไม่มีร้านประจำแนะนำว่าให้ลองเลือกซื้อจากร้านขายส่งใหญ่ ๆ ก่อน เพราะถ้าไม่ดีก็ยังพอจะพูดคุยหรือเปลี่ยนได้” แม่ค้าผลไม้แนะนำเคล็ดลับ
ในสัปดาห์หนึ่งจะต้องออกไปซื้อของ 2-3 ครั้ง โดยทุนหมุนเวียนแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับขนาดของแผงและผลไม้ที่ซื้อมาว่าเป็นฤดูของผลไม้ชนิดนั้นหรือเปล่า โดยราคาตลาดในแต่ละช่วงจะมีผลทำให้ต้นทุนถูกลงหรือแพงขึ้น ส่วนการตั้งราคาขายหน้าแผง สมมุติซื้อส้มมาขายกิโลกรัมละ 12 บาท ราคาวางขายวันแรกนั้นต้องบวกเพิ่มไปอีก 1 เท่าตัว คือขายกิโลกรัมละ 24 บาท เพื่อคืนทุน จากนั้นจะค่อย ๆ ลดราคาลงมาอีกประมาณกิโลกรัมละ 3-5 บาท
สาเหตุที่ราคาขาย-กำไรลดลง ก็เนื่องจากผลไม้ค้างอยู่กับแผงนาน ทำให้ความสดจะสู้ในวันแรก ๆ ไม่ได้ ทำให้ต้องลดราคาลงเพื่อรีบขายออกจากร้านก่อนที่ผลไม้จะเหี่ยวเฉาหรือเสีย
“ถ้าวันเดียวขายหมดเลย จะเห็นกำไรแน่นอน ตกอยู่ที่ประมาณ 60-70% ของเงินทุน แต่ถ้าผลไม้ยังไม่หมด แต่อยู่ในช่วง 2-3 วัน กำไรก็จะลดลงเหลือเพียงประมาณ 40-50% ของเงินทุน”
การเก็บรักษาผลไม้สำหรับขายถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญในการประกอบอาชีพนี้ แม่ค้าผลไม้คนเดิมแนะเคล็ดลับของเธอให้ฟังว่า ถ้าเป็นผลไม้ที่ไม่จำเป็นต้องรักษาอุณหภูมิ เช่น ส้ม มะม่วง แก้วมังกร ก็สามารถเก็บลงลังแล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อหรือคลุมได้เลย แต่หากเป็นผลไม้ที่ต้องรักษาอุณหภูมิหรือต้องแช่เย็น อาทิ สตรอเบอรี่ ลูกพลับสด องุ่น มะเขือเทศราชินี สาลี่หิมะ พุทราจัมโบ้ เป็นต้น ก็ต้องใช้ลังพลาสติกสำหรับแช่หรือตู้แช่ผลไม้
สำหรับวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำอาชีพขายผลไม้นั้น เธอบอกว่าใช้ทุนเพียงประมาณ 2,500 บาท โดยมีเพียงกระด้งหรือกระจาดสำหรับใส่ผลไม้ตามชนิดเพื่อขาย, ลังพลาสติกหรือเข่งบรรจุผลไม้, ตาชั่งน้ำหนัก, ถุงพลาสติกบรรจุผลไม้สำหรับลูกค้า ซึ่งควรมีหลายขนาด, ร่มกันแดด และฝักบัวรดน้ำ สร้างความชุ่มชื้นให้ผลไม้
เคล็ดลับในการจัดหน้าร้านหรือวางผลไม้บนแผงก็สำคัญ เธอบอกว่าเทคนิคของที่ร้านจะใช้กระด้งและกระจาด โดยนำกระจาดก้นลึกคว่ำลงบนกระด้ง จากนั้นจัดผลไม้ให้วางเป็นรูปทรงพีระมิด โดยจะจัดเรียงชนิดละ 1 กระด้ง จะไม่นำมาปนกัน จากนั้นใช้ลังผลไม้ตั้งซ้อนเรียงกันเป็นขั้นบันไดสำหรับวางกระด้งผลไม้
“การจัดแบบนี้ผลไม้จะไม่ทับ ไม่ซ้อน ทำให้ไม่ช้ำ ที่สำคัญยังสะดวกแก่ลูกค้าเวลาเลือกซื้ออีกด้วย หากต้องการเพิ่มความสวยงามให้ดูน่ามองก็ให้ใช้ใบไม้มาแซมตกแต่ง การขายผลไม้จะต้องขยันจัดเรียงและพรมน้ำบ่อย ๆ ใช้น้ำพรมให้ผลไม้ดูสดใหม่น่าทาน และยังได้ราคาดีอีกด้วย”
แม่ค้าคนเดิมกล่าวอีกว่า อาชีพขายผลไม้นั้นแม้จะถูกมองว่าเป็นอาชีพค้าขายธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรก็จำเป็นต้องใส่ใจทั้งสิ้น ที่สำคัญยังต้องรู้จักพลิกแพลงดัดแปลง เพื่อให้สินค้าสามารถขายได้ ซึ่ง “การรับจัดกระเช้า” ก็ถือว่าเป็นอีกบริการที่ช่วยเสริม และเพิ่มรายได้ให้กับอาชีพนี้ได้เป็นอย่างดี
“ที่ร้านก็จะรับจัดกระ เช้าให้ลูกค้าในช่วงเทศกาลต่าง ๆ อาทิ ปีใหม่ ตรุษจีน โดยลูกค้าอาจเป็นคนเลือกหรืออาจให้เราเลือกจัดผลไม้ให้เหมาะสมตามงบประมาณที่ลูกค้าต้องการ ถือว่าเป็นบริการเสริม และเป็นช่องทางเพิ่มรายได้พิเศษเข้าร้านได้อีกทาง” สถาพรกล่าว
เพื่อน ๆ คุณผู้อ่านจะสังเกตเห็นได้ว่า ถึงแม้อาชีพขายผลไม้จะเป็นอาชีพอิสระดั้งเดิมที่มีมายาวนานตั้งแต่โบราณ แต่ก็ยังไม่สูญหาย และที่สำคัญสามารถทำเป็นอาชีพอิสระ หรืออาชีพเสริม สร้างรายได้ ได้เป็นอย่างดี หากมีทำเลที่ตั้งร้านอยู่ในย่านชุมชน ก็สามารถขายดี ได้กำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำกันเลยครับ
ไปหน้าแรก อาชีพเสริมหลังเลิกงานรายได้ดี