อาชีพอิสระ อาชีพเสริม การทำเสื้อเพนท์ลาย สร้างอาชีพ สร้างรายได้
สวัสดีครับเื่พื่อน ๆ วันนี้เอาอาชีพอิสระ อาชีพเสริมแบบอาร์ต ๆ มาแนะนำกันครับ เหมาะสำหรับท่านที่ชื่นชอบงานฝีมือ เพราะอาชีพนี้ต้องอาศัยฝีมือในการทำด้วย มาดูกันครับ สำหรับการทำเสื้อเพนท์ลายแบบแฮนด์เมด เพราะต้องการสร้างจุดขายให้แก่สินค้า หนีความซ้ำซากจากเจ้าอื่นๆ ในท้องตลาด นำมาสู่การเพนท์ลวดลายเก๋ๆ แบบแฮนด์เมด ลงบนตัวเสื้อที่ออกแบบด้วยตัวเอง ซึ่งช่วยเพิ่มสีสัน และมูลค่า กลายเป็นเอกลักษณ์เด่นที่ลูกค้าจดจำได้เป็นอย่างดี โดยเจ้าของไอเดีย คือ ภูเบศวร์ เพชรภู่ ร้าน Simply Tai
“ผมทำธุรกิจขายเสื้อผ้าฝ้ายมัดย้อมสี ต่างๆ มานานแล้ว อยู่ที่ชุมชนบ้านครัว ย่านวังสระปทุมถึงถนนอุรุพงษ์ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่มีชื่อเสียงด้านการทอผ้า ในท้องที่ จะมีผู้ผลิตเสื้อผ้าทอจำนวนมาก ทำให้ผมอยากจะสร้างความแตกต่างให้แก่สินค้าของตัวเอง ส่วนตัวแล้ว ผมชอบด้านศิลปะ ถึงจะไม่ได้เรียนมาโดยตรงก็ตาม เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว จึงลองหาทางเพิ่มค่า โดยเอาเสื้อมาเพนท์ลายเล่นๆ เริ่มจากไม่กี่ตัว” ภูเบศวร์ เล่าที่มาของไอเดีย
เสื้อเพนท์ที่ทดลองทำขึ้นด้วยความชอบส่วนตัว กลายเป็นสินค้าที่ถูกใจลูกค้าอยากแรง ช่วยให้มียอดขายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จนต้องเพิ่มกำลังผลิตมากขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุด กลายเป็นเอกลักษณ์ประจำร้าน
สำหรับจุดเด่นของเสื้อ ร้าน Simply Tai ต้องยกให้ความสวยงาม และความละเอียดลออของลวดลายที่วาดลงบนตัวเสื้อ โดยเคล็ดลับสำคัญนั้น ภูเบศวร์บอกว่า มาจากสีอะคลิลิกที่ใช้เพนท์เป็นสูตรที่ผสมขึ้นเอง ซึ่งมีความเหนียวและลื่นกำลังดี ช่วยให้สามารถเพนท์ลวยลายต่างๆ ได้อย่างที่ใจคิด รวมถึง ไม่หลุดลอก หรือตกซีดจาง ซึ่งกว่าจะได้สูตรสีดังกล่าว ลองถูกลองผิดอยู่นาน
ในส่วนการออกแบบลวดลายต่างๆ แทบทั้งหมดมาจากสมองของภูเบศวร์ โดยแรงบันดาลใจจะมาจากสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นกระแสนิยมของตลาด คำแนะนำของลูกค้า ผสมเข้ากับจินตนาการส่วนตัว รวมแล้วเคยออกแบบมาทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่าพันลาย มีทั้งรูปตุ๊กตา วิวธรรมชาติ ดอกไม้ สัตว์ ตัวอักษร ฯลฯ และยังคงออกแบบใหม่สม่ำเสมอ ประมาณ 4-5 แบบต่อเดือน
ทั้งนี้ วัสดุผ้าที่ใช้ตัดเย็บลงตัวที่ผ้ามัสลิน (Muslin) เพราะเป็นเนื้อผ้าที่สวมใส่สบาย เรียบเนียนเหมาะกับเมืองร้อน และที่สำคัญเข้ากันได้ดีกับสไตล์การเพนท์ลาย
ด้านการผลิต เจ้าของธุรกิจ ระบุว่า ทำกันเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน โดยจะออกแบบและตัดเย็บเสื้อเองทั้งหมด เน้นให้เป็นเครื่องแต่งกายที่สวมใส่สบาย ใส่เที่ยวหรือใส่อยู่บ้านก็ได้ ส่วนการเพนท์ลายนั้น ในยุคบุกเบิกจะลงมือเพนท์ลายเองทั้งหมด ภายหลังได้สร้างทีมงานเพนท์ขึ้นมาช่วยแบ่งเบาภาระ ประมาณ 5-6 คน มีทั้งคนที่เรียนทางศิลปะโดยตรง และผู้ที่สนใจเข้าฝึกฝนจนชำนาญ เฉลี่ยสามารถผลิตเสื้อได้ประมาณ 200 ตัวต่อวัน
เสื้อเพนท์ลายของร้าน Simply Tai มีให้เลือกทั้งเสื้อผู้ชาย ผู้หญิง กระโปรง กางเกง เสื้อผ้าเด็ก และกระเป๋าผ้า เป็นต้น รวมแล้วมีกว่า 50 แบบ ราคาตั้งแต่ 240-390 บาท (แล้ว แต่แบบและขนาด) ลูกค้าหลักประมาณ 60% จะเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะเอเชีย เช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น เป็นต้น อีก 40% เป็นลูกค้าคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงาน ซึ่งชอบเครื่องแต่งกายสบายๆ และไม่ซ้ำใครในท้องตลาด ส่วนช่องทางตลาดจะเน้นขายผ่านหน้าร้านที่อยู่ในตลาดนัดสวนจตุจักร โครงการ 7 นอกจากนั้น จะรับผลิตตามคำสั่งซื้อไปขายยังแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลชื่อดังของไทย เช่น ภูเก็ต พัทยา เกาะสมุย เป็นต้น
ในส่วนของปัญหาธุรกิจ ภายในคือ การบริหารสต๊อกให้เหมาะสม ไม่ให้ต้นทุนไปจมกับสินค้าค้างสต็อกมากเกินไป ขณะเดียวกันต้องมีสินค้าใหม่ๆ คอยออกสู่ตลาดไม่ให้ขาด ซึ่งพยายามแก้ไขด้วยการหมั่นตรวจสต๊อกอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัญหาภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ และแทบทุกคนเจอเหมือนกัน คือ ปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง กระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค และจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเมืองไทยน้อยลง ส่งผลให้ยอดขายลดลงตามไปด้วย
“ตลาดของเสื้อเพนท์ลายแฮนด์เมด แม้จะไม่กว้างมากนัก แต่ยังจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่นิยมสินค้าประเภทนี้ หากสร้างเอกลักษณ์ให้ลูกค้าจดจำได้ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จยังมีความเป็นไปได้” เขาทิ้งท้าย
ไปหน้าแรก อาชีพเสริมอาชีพอิสระ
ที่มา Manager
สวัสดีครับเื่พื่อน ๆ วันนี้เอาอาชีพอิสระ อาชีพเสริมแบบอาร์ต ๆ มาแนะนำกันครับ เหมาะสำหรับท่านที่ชื่นชอบงานฝีมือ เพราะอาชีพนี้ต้องอาศัยฝีมือในการทำด้วย มาดูกันครับ สำหรับการทำเสื้อเพนท์ลายแบบแฮนด์เมด เพราะต้องการสร้างจุดขายให้แก่สินค้า หนีความซ้ำซากจากเจ้าอื่นๆ ในท้องตลาด นำมาสู่การเพนท์ลวดลายเก๋ๆ แบบแฮนด์เมด ลงบนตัวเสื้อที่ออกแบบด้วยตัวเอง ซึ่งช่วยเพิ่มสีสัน และมูลค่า กลายเป็นเอกลักษณ์เด่นที่ลูกค้าจดจำได้เป็นอย่างดี โดยเจ้าของไอเดีย คือ ภูเบศวร์ เพชรภู่ ร้าน Simply Tai
“ผมทำธุรกิจขายเสื้อผ้าฝ้ายมัดย้อมสี ต่างๆ มานานแล้ว อยู่ที่ชุมชนบ้านครัว ย่านวังสระปทุมถึงถนนอุรุพงษ์ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่มีชื่อเสียงด้านการทอผ้า ในท้องที่ จะมีผู้ผลิตเสื้อผ้าทอจำนวนมาก ทำให้ผมอยากจะสร้างความแตกต่างให้แก่สินค้าของตัวเอง ส่วนตัวแล้ว ผมชอบด้านศิลปะ ถึงจะไม่ได้เรียนมาโดยตรงก็ตาม เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว จึงลองหาทางเพิ่มค่า โดยเอาเสื้อมาเพนท์ลายเล่นๆ เริ่มจากไม่กี่ตัว” ภูเบศวร์ เล่าที่มาของไอเดีย
เสื้อเพนท์ที่ทดลองทำขึ้นด้วยความชอบส่วนตัว กลายเป็นสินค้าที่ถูกใจลูกค้าอยากแรง ช่วยให้มียอดขายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จนต้องเพิ่มกำลังผลิตมากขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุด กลายเป็นเอกลักษณ์ประจำร้าน
สำหรับจุดเด่นของเสื้อ ร้าน Simply Tai ต้องยกให้ความสวยงาม และความละเอียดลออของลวดลายที่วาดลงบนตัวเสื้อ โดยเคล็ดลับสำคัญนั้น ภูเบศวร์บอกว่า มาจากสีอะคลิลิกที่ใช้เพนท์เป็นสูตรที่ผสมขึ้นเอง ซึ่งมีความเหนียวและลื่นกำลังดี ช่วยให้สามารถเพนท์ลวยลายต่างๆ ได้อย่างที่ใจคิด รวมถึง ไม่หลุดลอก หรือตกซีดจาง ซึ่งกว่าจะได้สูตรสีดังกล่าว ลองถูกลองผิดอยู่นาน
ในส่วนการออกแบบลวดลายต่างๆ แทบทั้งหมดมาจากสมองของภูเบศวร์ โดยแรงบันดาลใจจะมาจากสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นกระแสนิยมของตลาด คำแนะนำของลูกค้า ผสมเข้ากับจินตนาการส่วนตัว รวมแล้วเคยออกแบบมาทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่าพันลาย มีทั้งรูปตุ๊กตา วิวธรรมชาติ ดอกไม้ สัตว์ ตัวอักษร ฯลฯ และยังคงออกแบบใหม่สม่ำเสมอ ประมาณ 4-5 แบบต่อเดือน
ทั้งนี้ วัสดุผ้าที่ใช้ตัดเย็บลงตัวที่ผ้ามัสลิน (Muslin) เพราะเป็นเนื้อผ้าที่สวมใส่สบาย เรียบเนียนเหมาะกับเมืองร้อน และที่สำคัญเข้ากันได้ดีกับสไตล์การเพนท์ลาย
ด้านการผลิต เจ้าของธุรกิจ ระบุว่า ทำกันเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน โดยจะออกแบบและตัดเย็บเสื้อเองทั้งหมด เน้นให้เป็นเครื่องแต่งกายที่สวมใส่สบาย ใส่เที่ยวหรือใส่อยู่บ้านก็ได้ ส่วนการเพนท์ลายนั้น ในยุคบุกเบิกจะลงมือเพนท์ลายเองทั้งหมด ภายหลังได้สร้างทีมงานเพนท์ขึ้นมาช่วยแบ่งเบาภาระ ประมาณ 5-6 คน มีทั้งคนที่เรียนทางศิลปะโดยตรง และผู้ที่สนใจเข้าฝึกฝนจนชำนาญ เฉลี่ยสามารถผลิตเสื้อได้ประมาณ 200 ตัวต่อวัน
เสื้อเพนท์ลายของร้าน Simply Tai มีให้เลือกทั้งเสื้อผู้ชาย ผู้หญิง กระโปรง กางเกง เสื้อผ้าเด็ก และกระเป๋าผ้า เป็นต้น รวมแล้วมีกว่า 50 แบบ ราคาตั้งแต่ 240-390 บาท (แล้ว แต่แบบและขนาด) ลูกค้าหลักประมาณ 60% จะเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะเอเชีย เช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น เป็นต้น อีก 40% เป็นลูกค้าคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงาน ซึ่งชอบเครื่องแต่งกายสบายๆ และไม่ซ้ำใครในท้องตลาด ส่วนช่องทางตลาดจะเน้นขายผ่านหน้าร้านที่อยู่ในตลาดนัดสวนจตุจักร โครงการ 7 นอกจากนั้น จะรับผลิตตามคำสั่งซื้อไปขายยังแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลชื่อดังของไทย เช่น ภูเก็ต พัทยา เกาะสมุย เป็นต้น
ในส่วนของปัญหาธุรกิจ ภายในคือ การบริหารสต๊อกให้เหมาะสม ไม่ให้ต้นทุนไปจมกับสินค้าค้างสต็อกมากเกินไป ขณะเดียวกันต้องมีสินค้าใหม่ๆ คอยออกสู่ตลาดไม่ให้ขาด ซึ่งพยายามแก้ไขด้วยการหมั่นตรวจสต๊อกอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัญหาภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ และแทบทุกคนเจอเหมือนกัน คือ ปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง กระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค และจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเมืองไทยน้อยลง ส่งผลให้ยอดขายลดลงตามไปด้วย
“ตลาดของเสื้อเพนท์ลายแฮนด์เมด แม้จะไม่กว้างมากนัก แต่ยังจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่นิยมสินค้าประเภทนี้ หากสร้างเอกลักษณ์ให้ลูกค้าจดจำได้ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จยังมีความเป็นไปได้” เขาทิ้งท้าย
ไปหน้าแรก อาชีพเสริมอาชีพอิสระ
ที่มา Manager