อาชีพเสริมเกษตรแก้จน การเพาะเห็ดนางฟ้าภูฏาน เพาะง่าย รายได้ดี
เห็ดที่ขึ้นในสภาพอากาศเย็น เช่น เห็ดนางรมฮังการี เห็ดนางนวลสีชมพู เห็ดโคนยานางิ รวมถึง เห็ดนางฟ้าภูฏาน เป็นเห็ดเศรษฐกิจที่กำลังมาแรง ยิ่งมีกระแสกินเห็ดเพื่อสุขภาพ ยิ่งทำให้เห็ดกลุ่มนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก
เพราะมีคุณสมบัติในเชิงสุขภาพ เช่น ต้านสารพิษ จึงมีผู้เพาะเห็ดจำพวกนี้เป็น ’ช่องทางทำกิน“ ไม่น้อย… จีระนันท์ พุ่มเรือง วิทยากรอบรมการเพาะเห็ดนางฟ้าภูฏาน จีระนันท์ พุ่มเรือง หรือ ลูกโป่ง จากฟาร์มเห็ดยายฉิม จ.นครนายก วิทยากรอบรมการเพาะเห็ดในงานตลาดนัดเศรษฐกิจพอเพียงที่พิพิธภัณฑ์การเกษตร เฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี เมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นอีกผู้หนึ่งที่มีช่องทางทำกินจากการเพาะเห็ดขาย เจ้าตัวเล่าว่า เป็นคนกรุงเทพฯ ครอบครัวเป็นลูกชาวนา มีคุณยายชื่อฉิมและเคยทำเห็ดฟางเตี้ยแบบโบราณและทำอาหารจำพวกเห็ดได้เก่งมาก ซึ่งมาถึงรุ่นหลัง ๆ ในครอบครัวก็เรียนจบปริญญาตรีกัน มีหน้าที่การงานประจำ แต่ที่บ้านไม่ลืมอาชีพเกษตร อยากจะคงไว้ซึ่งอาชีพ เป็นความภาคภูมิใจของอาชีพเกษตรกร “เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้ ม.เกษตรฯ ชอบไปเดินงานเกษตรแฟร์ทุกปี และชอบกินเห็ดเป็นชีวิตจิตใจทั้งบ้านเลย ทำอาหารเห็ดพื้นบ้านก็เป็นหมด จึงไปอบรมเรื่องการเพาะเห็ดจากผู้รู้ ทำให้ทราบว่าเห็ดที่กินมีมากมายหลายสายพันธุ์ และนำมาทำเป็นเห็ดเศรษฐกิจได้ไม่ใช่แค่เห็ดฟาง
จากนั้นก็เริ่มเพาะเห็ดขาย เริ่มจากเห็ดอากาศร้อน อย่างเห็ดขอน ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ แล้วจึงเพาะเห็ดอากาศเย็น อย่างเช่น เห็ดนางฟ้าภูฏาน เปาฮื้อ เพิ่มสายพันธุ์จากสายพันธุ์เดิม” จีระนันท์บอกว่า ใครอยากเพาะเห็ดขาย แนะนำให้ทำเห็ดที่ทำง่ายก่อน เช่น เห็ดนางฟ้าภูฏาน หรือ นางนวล และควรฝึกทำให้ผ่าน 3 ฤดูก่อน จะได้รู้ว่าเห็ดสายพันธุ์นี้เจออากาศแต่ละฤดูแล้วจะเกิดปัญหาอะไร ซึ่งวิธีทำก็เริ่มจากสร้างโรงเรือนกว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร และขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 12 เมตร ซึ่งฟาร์มเห็ดสามารถจะย่อหรือขยายได้ตามจำนวนเห็ดที่ใส่เข้าไป แต่ความสูงต้องเกิน 4 เมตร เพราะเห็ดอากาศเย็นจะต้องมีหลังคาสูง เพื่อจะช่วยลดความร้อนและระบายความร้อนได้ดี และห้ามโดนแดดโดนลม ส่วนวัสดุที่ทำโรงเรือนก็ทำมาจากไม้ไผ่ มุงด้วยแฝก จาก พื้นปูด้วยดินและทราย ทำหน้าต่างซึ่งคลุมด้วยสแลนสีดำเพื่อควบคุมอุณหภูมิ ติดระบบน้ำสปริงเกิล โดยค่าสร้างโรงเรือนที่บรรจุก้อนเห็ดได้ราว 4,000 ก้อน อยู่ที่ประมาณ 35,000 บาท ส่วนก้อนเชื้อให้ซื้อก้อนเชื้อที่เดินใยเต็มที่แล้ว ราคาก้อนละ 5-10 บาท
จากนั้นก็เริ่มเพาะเห็ดขาย เริ่มจากเห็ดอากาศร้อน อย่างเห็ดขอน ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ แล้วจึงเพาะเห็ดอากาศเย็น อย่างเช่น เห็ดนางฟ้าภูฏาน เปาฮื้อ เพิ่มสายพันธุ์จากสายพันธุ์เดิม” จีระนันท์บอกว่า ใครอยากเพาะเห็ดขาย แนะนำให้ทำเห็ดที่ทำง่ายก่อน เช่น เห็ดนางฟ้าภูฏาน หรือ นางนวล และควรฝึกทำให้ผ่าน 3 ฤดูก่อน จะได้รู้ว่าเห็ดสายพันธุ์นี้เจออากาศแต่ละฤดูแล้วจะเกิดปัญหาอะไร ซึ่งวิธีทำก็เริ่มจากสร้างโรงเรือนกว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร และขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 12 เมตร ซึ่งฟาร์มเห็ดสามารถจะย่อหรือขยายได้ตามจำนวนเห็ดที่ใส่เข้าไป แต่ความสูงต้องเกิน 4 เมตร เพราะเห็ดอากาศเย็นจะต้องมีหลังคาสูง เพื่อจะช่วยลดความร้อนและระบายความร้อนได้ดี และห้ามโดนแดดโดนลม ส่วนวัสดุที่ทำโรงเรือนก็ทำมาจากไม้ไผ่ มุงด้วยแฝก จาก พื้นปูด้วยดินและทราย ทำหน้าต่างซึ่งคลุมด้วยสแลนสีดำเพื่อควบคุมอุณหภูมิ ติดระบบน้ำสปริงเกิล โดยค่าสร้างโรงเรือนที่บรรจุก้อนเห็ดได้ราว 4,000 ก้อน อยู่ที่ประมาณ 35,000 บาท ส่วนก้อนเชื้อให้ซื้อก้อนเชื้อที่เดินใยเต็มที่แล้ว ราคาก้อนละ 5-10 บาท
“เห็ดต้องการความชื้นรอบนอกกับออกซิเจน และในการงอกของก้อนเชื้อจะให้ผลผลิตประมาณ 4-6 เดือนโดยเฉลี่ยต่อ 1 รุ่น บางสายพันธุ์อาจจะดีกว่า ถ้าดูแลดี ถ้าไม่ติดเชื้อจะอยู่ได้นานเกือบปี”
วิธีเพาะเห็ดนางฟ้าภูฏาน
วิธีเพาะเห็ดนางฟ้าภูฏานในถุง จีระนันท์เล่าว่า มี 3 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนเปิดดอก ยกตัวอย่าง เห็ดนางฟ้าภูฏาน ให้นำก้อนเชื้อที่เส้นใยเห็ดเจริญเต็มถุง คัดเฉพาะที่ไม่มีการปนเปื้อน มาเปิดในโรงเรือน เปิดถุงโดยเอาสำลีออก แล้วนำก้อนไปเรียงซ้อนกัน รดน้ำเช้า-เย็น รักษาความชื้นในโรงเรือน 70-90 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องระวังอย่าให้น้ำเข้าถุง เพราะถุงจะเน่า และเสียเร็ว หลังจากนั้นประมาณ 7 วัน ดอกเห็ดเล็ก ๆ จะเกิดขึ้น จากนั้นจึงเริ่มเก็บผลผลิตได้ ซึ่งจะเก็บประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้น พักก้อน 4-5 วัน คือหยุดให้น้ำ รอให้ดอกเห็ดแทงหน่อใหม่ จากนั้นเริ่มให้น้ำใหม่ และรอเก็บผลผลิตในรอบถัดไป ต่อมาคือเรื่องการดูแลรักษากล่าวคือ ในฤดูแล้งให้รดน้ำที่พื้นที่วันละ 1-2 ครั้ง แต่สำหรับในฤดูฝน ถ้าฝนตกมากให้งดการให้น้ำ เวลาให้น้ำอย่าให้น้ำถูกดอกเห็ด ภายในโรงเรือนต้องมีอากาศถ่ายเท และมีแสงสว่างส่องเข้าถึง เส้นใยจะพัฒนาเป็นดอกเห็ดขนาดเล็กคล้ายดอกเข็ม หลังจากนั้นไม่เกิน 7 วัน ก็จะเก็บผลผลิตได้ ขั้นตอนสุดท้ายคือการเก็บดอกเห็ดนางฟ้าภูฏาน ควรเก็บดอกเห็ดที่มีอายุปานกลางไม่แก่หรืออ่อนเกินไป ควรเก็บก่อนดอกเห็ดจะปล่อยสปอร์ ใช้มือจับดอกเห็ดแล้วดึงเบา ๆ ดอกเห็ดจะหลุดออกมา แล้วใช้มีดตัดส่วนที่สกปรกบริเวณโคนเห็ดออก ไม่ควรวางดอกเห็ดซ้อนกันจำนวนมาก เพราะเนื้อเยื่อเห็ดจะช้ำได้ ควรมีผ้าขาวบางวางรองบนภาชนะที่ใช้เก็บ เช่น ตะกร้า กระจาด จะช่วยลดการเสียดสีลงได้ ภาชนะควรจะโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ การเก็บรักษาในถุงพลาสติกควรเจาะรูไว้ หรือไม่ควรปิดปากถุง เพราะเห็ดยังมีขบวนการหายใจ ทำให้มีไอน้ำและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อาจทำให้ดอกเห็ดเน่าเสียเร็ว ควรเก็บไว้ในที่ร่ม หากเก็บในตู้เย็นต้องบรรจุในถุงพลาสติกปิดปากถุงให้แน่น จะเก็บได้นานประมาณ 7 วัน “หลังจากเก็บดอกเห็ดนางฟ้าภูฏานแล้ว ให้รดน้ำทุกครั้ง ๆ ละ 1-2 นาที เห็ดในรอบต่อไปจะโตขึ้น วันหนึ่ง ๆ จะเก็บเห็ดได้ 3 ครั้ง อุณหภูมิที่ดีที่สุดคือไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส ที่สำคัญในโรงเรือนต้องมีออกซิเจนให้เห็ดหายใจ”
จีระนันท์บอก ก้อนเห็ด 4,000 ก้อน จะเก็บเห็ดได้ครั้งละ 100 กก.ขึ้นไป โดยราคา เห็ดนางฟ้าภูฏาน ตอนนี้จะขายได้ กก.ละประมาณ 50-70 บาท ก้อนเชื้อ 1 ก้อนจะเก็บเห็ดได้ 6-8 เดือน ๆ ละ 4 ครั้ง ส่วนเห็ดนางรม เห็ดนางนวล ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 150 บาทขึ้นไป ซึ่งเราคิดว่าการเพาะเห็ดขาย ก็นับว่ามีรายได้ดีที่น่าสน
สนใจเรื่องการเพาะเห็ดอากาศเย็นสายพันธุ์ต่าง ๆ ต้องการติดต่อ จีระนันท์ พุ่มเรือง ฟาร์มเห็ดยายฉิม ติดต่อได้ที่ เลขที่ 545, 577 หมู่ 8 บ้านชะวากยาว ต.บ้านพริก อ.บ้านนา จ.นครนายก โทร. 08-9500-3728, 08-7068-1895. ที่มา: เดลินิวส์, สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล
ที่มา..www.thaifc.net
ไปหน้าแรก อาชีพเสริมรายไ้ด้ดี
วิธีเพาะเห็ดนางฟ้าภูฏาน
วิธีเพาะเห็ดนางฟ้าภูฏานในถุง จีระนันท์เล่าว่า มี 3 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนเปิดดอก ยกตัวอย่าง เห็ดนางฟ้าภูฏาน ให้นำก้อนเชื้อที่เส้นใยเห็ดเจริญเต็มถุง คัดเฉพาะที่ไม่มีการปนเปื้อน มาเปิดในโรงเรือน เปิดถุงโดยเอาสำลีออก แล้วนำก้อนไปเรียงซ้อนกัน รดน้ำเช้า-เย็น รักษาความชื้นในโรงเรือน 70-90 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องระวังอย่าให้น้ำเข้าถุง เพราะถุงจะเน่า และเสียเร็ว หลังจากนั้นประมาณ 7 วัน ดอกเห็ดเล็ก ๆ จะเกิดขึ้น จากนั้นจึงเริ่มเก็บผลผลิตได้ ซึ่งจะเก็บประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้น พักก้อน 4-5 วัน คือหยุดให้น้ำ รอให้ดอกเห็ดแทงหน่อใหม่ จากนั้นเริ่มให้น้ำใหม่ และรอเก็บผลผลิตในรอบถัดไป ต่อมาคือเรื่องการดูแลรักษากล่าวคือ ในฤดูแล้งให้รดน้ำที่พื้นที่วันละ 1-2 ครั้ง แต่สำหรับในฤดูฝน ถ้าฝนตกมากให้งดการให้น้ำ เวลาให้น้ำอย่าให้น้ำถูกดอกเห็ด ภายในโรงเรือนต้องมีอากาศถ่ายเท และมีแสงสว่างส่องเข้าถึง เส้นใยจะพัฒนาเป็นดอกเห็ดขนาดเล็กคล้ายดอกเข็ม หลังจากนั้นไม่เกิน 7 วัน ก็จะเก็บผลผลิตได้ ขั้นตอนสุดท้ายคือการเก็บดอกเห็ดนางฟ้าภูฏาน ควรเก็บดอกเห็ดที่มีอายุปานกลางไม่แก่หรืออ่อนเกินไป ควรเก็บก่อนดอกเห็ดจะปล่อยสปอร์ ใช้มือจับดอกเห็ดแล้วดึงเบา ๆ ดอกเห็ดจะหลุดออกมา แล้วใช้มีดตัดส่วนที่สกปรกบริเวณโคนเห็ดออก ไม่ควรวางดอกเห็ดซ้อนกันจำนวนมาก เพราะเนื้อเยื่อเห็ดจะช้ำได้ ควรมีผ้าขาวบางวางรองบนภาชนะที่ใช้เก็บ เช่น ตะกร้า กระจาด จะช่วยลดการเสียดสีลงได้ ภาชนะควรจะโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ การเก็บรักษาในถุงพลาสติกควรเจาะรูไว้ หรือไม่ควรปิดปากถุง เพราะเห็ดยังมีขบวนการหายใจ ทำให้มีไอน้ำและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อาจทำให้ดอกเห็ดเน่าเสียเร็ว ควรเก็บไว้ในที่ร่ม หากเก็บในตู้เย็นต้องบรรจุในถุงพลาสติกปิดปากถุงให้แน่น จะเก็บได้นานประมาณ 7 วัน “หลังจากเก็บดอกเห็ดนางฟ้าภูฏานแล้ว ให้รดน้ำทุกครั้ง ๆ ละ 1-2 นาที เห็ดในรอบต่อไปจะโตขึ้น วันหนึ่ง ๆ จะเก็บเห็ดได้ 3 ครั้ง อุณหภูมิที่ดีที่สุดคือไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส ที่สำคัญในโรงเรือนต้องมีออกซิเจนให้เห็ดหายใจ”
จีระนันท์บอก ก้อนเห็ด 4,000 ก้อน จะเก็บเห็ดได้ครั้งละ 100 กก.ขึ้นไป โดยราคา เห็ดนางฟ้าภูฏาน ตอนนี้จะขายได้ กก.ละประมาณ 50-70 บาท ก้อนเชื้อ 1 ก้อนจะเก็บเห็ดได้ 6-8 เดือน ๆ ละ 4 ครั้ง ส่วนเห็ดนางรม เห็ดนางนวล ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 150 บาทขึ้นไป ซึ่งเราคิดว่าการเพาะเห็ดขาย ก็นับว่ามีรายได้ดีที่น่าสน
สนใจเรื่องการเพาะเห็ดอากาศเย็นสายพันธุ์ต่าง ๆ ต้องการติดต่อ จีระนันท์ พุ่มเรือง ฟาร์มเห็ดยายฉิม ติดต่อได้ที่ เลขที่ 545, 577 หมู่ 8 บ้านชะวากยาว ต.บ้านพริก อ.บ้านนา จ.นครนายก โทร. 08-9500-3728, 08-7068-1895. ที่มา: เดลินิวส์, สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล
ที่มา..www.thaifc.net
ไปหน้าแรก อาชีพเสริมรายไ้ด้ดี