น้ำแข็งไส ขนมปังเย็น เป็นเมนูที่เชื่อว่า หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นเมนูน้ำแข็งไสที่อยู่คู่อาหารไทยมาช้านาน แต่เนื่องจากปัจจุบัน การเข้ามาของน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะ ทำให้เมนูขนมปังเย็นน้ำแข็งไสแบบโบราณถูกกลืนหายไป โดยเฉพาะคนเมืองหลวง และด้วยเหตุนี้เอง “ทิชา เกตุเหม” เกรงว่าขนมปังเย็นที่ตัวเองชื่นชอบจะเลื่อนหายไป จึงได้นำทั้งสองสิ่งคือ ความทันสมัยของ ไอศกรีมเกล็ดหิมะ และ ขนมปังเย็นแบบดั้งเดิม มารวมไว้ด้วยกัน ออกมาเป็น “ปังเย็น เกล็ดหิมะ”
|
ทิชา เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ ปังเย็น เกล็ดหิมะ ว่า เริ่มมาจากตัวเองเป็นคนชอบกินขนมปังเย็น น้ำแข็งไสมาก ตอนสมัยเด็ก รู้สึกว่า บางร้านเครื่องปั่นน้ำแข็งไม่ละเอียด แต่ส่วนตัวชอบที่มันปั่นน้ำแข็งละเอียด ซึ่งปัจจุบัน มีไอศกรีมน้ำแข็งเกล็ดหิมะ ที่นำเข้ามาจากไต้หวันได้รับความนิยมอย่างมาก และที่สำคัญ คือ เนื้อน้ำแข็งไสมันละเอียดอย่างที่ต้องการ ก่อนหน้าที่คิดว่าจะทำไอศกรีมเกล็ดหิมะ ได้ทำการศึกษาจากร้านไอศกรีมเกล็ดหิมะที่ขายกันทั่วไป เพื่อหาข้อแตกต่างนำมาปรับปรุงเพื่อให้ปังเย็นเกล็ดหิมะของเรามีความแตกต่าง จากไอศกรีมเกล็ดหิมะที่ขายกันทั่วไป
ทั้งนี้ พบว่า ส่วนใหญ่น้ำแข็งจะไม่มีรสชาติอะไร นำมาเพิ่มตกแต่งรสชาติอีกที่ภายหลัง พอคิดทำปังเย็น เกล็ดหิมะ เลยตัดสินใจ ทำตัวน้ำแข็งให้มีรสชาติต่างๆในตัวของมันเลยก่อนจะนำมาเข้าเครื่องปั่น เช่น สีแดง น้ำหวานแดง หรือ ตัวปังเย็นเกล็ดหิมะ ปรุงรสชาติเข้าไปในตัวน้ำแข็งเลย โดยใส่ส่วนผสมของน้ำหวาน นม และขนมปัง ก่อนที่จะนำน้ำแข็งนั้นมาผ่านเข้าเครื่องปั่น และตกแต่งเติมขนมปัง และนม เพิ่มเติมเข้าไปเป็น Topping
|
|
รสผลไม้ สำหรับสาวชอบผลไม้เปรี้ยว |
|
|
"ในส่วนของรสชาติ ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 2 กลุ่ม กลุ่มแรกปังแดง ปังเขียว เป็นตัวแรกที่เราทำออกมา ทำมาจากน้ำหวานแดง และเขียว หลังจากนั้น ได้เพิ่มในส่วนของคนที่ชื่นชอบ น้ำผลไม้ มีรสสตอเบอรี่ บูลเบอรี่ และไม่ทิ้งรสชาติแบบไทยคอนเซ็ปต์ของปังเย็น คือ การเพิ่มรสกะทิรวมมิตร ซึ่งการที่เราไม่ทำรสชาติให้หลากหลายมากกว่านี้ เพราะต้องการคงคอนเซ็ปต์ความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร ก็เลยไม่ต้องการจะทำรสชาติซ้ำกับที่ทำขายทั่วไป”
|
สำหรับรูปแบบของปังเย็น เกล็ดหิมะของเราอาจจะ ต่างจากร้านน้ำแข็งเกล็ดหิมะทั่วไป เพราะทำทุกอย่างมาจากโรงงาน คล้ายกับไอศกรีม และมาตักเสิร์ฟ ลูกค้าหน้าร้าน ในส่วนของโรงงานใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ในการผลิต เพื่อทำครั้งละมาก โดยเริ่มจาก ทำน้ำแข็งผสมรสชาติต่างๆ และนำน้ำแข็งมาผ่านเครื่องเหมือนกับไอศกรีมเกล็ดหิมะทั่วไป สาเหตุไม่ได้ใช้วิธีการเข้าเครื่องปั่นหน้าร้าน เหมือนกับน้ำแข็งเกล็ดหิมะทั่วไป เนื่องจากไม่ได้เน้นแค่ขายหน้าร้าน แต่ต้องการทำเป็นอุตสาหกรรมส่งขายให้กับร้านทั่วไปที่สนใจ ต้องการรับสินค้าของเราไปขาย จะได้ไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่อง ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งผู้ที่รับสินค้าไปขายลงทุนเพียงแค่ตู้แช่ และอุปกรณ์ทั่วไป และไม่ต้องใช้พื้นที่มาก ตักขายเหมือนกับการขายไอศกรีม
|
|
ปังเขียว |
|
|
โดยได้เริ่มทำธุรกิจตัวนี้มาได้ประมาณ 1 ปี ด้วยการเปิดหน้าร้าน 2 แห่ง ที่ ซอยลาซาล จังหวัดสมุทรปราการ ขายอยู่ในร้านอาหาร และที่หน้ามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จังหวัดนครปฐม รวมถึงการขายส่งให้กับพ่อค้า รับไปจำหน่ายต่ออีกทอดหนึ่ง ที่ผ่านมาแนะนำตัวเอง ผ่านงานแสดงสินค้าต่างๆ ที่เกี่ยวกับอาหารและไอศกรีม เริ่มต้นออกงานแสดงสินค้าครั้งแรกในงานไอศกรีมเซ็นทรัล เฟสติวัล ได้รับความสนใจจากลูกค้าที่รับไปจำหน่ายต่อค่อนข้างมาก ต่อมาออกงานแสดงสินค้าอีกหลายครั้ง ที่ผ่านมา เวลาออกงานแต่ละครั้งจะได้รับความสนใจจากลูกค้า
ปัจจุบันมียอดการขายส่งให้กับลูกค้ารับไปจำหน่าย สูงกว่าการขายปลีกหน้าร้าน ในอนาคตตั้งใจว่าจะเซ็ทระบบขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์ แต่ก็คงจะต้องรอเวลา ให้กิจการของเราแข็งแรงกว่านี้ และเข้าใจระบบของแฟรนไชส์ เพื่อป้องกันการผิดพลาดในอนาคต
|
|
ปังแดง |
|
|
ทั้งนี้ ราคาขายส่งคิดราคาถูกกว่า การขายปลีกหน้าร้านค่อนข้างมาก เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปทำกำไรต่อได้ ซึ่งเราไม่ได้กำหนดราคาขายแล้วแต่ว่า ลูกค้าจะไปขายราคาเท่าไหร่ หรือตั้งชื่อแบรนด์อะไร ซึ่งในส่วนของเราราคาขายทั้ง 2 สาขา อยู่ที่ถ้วยละ 35 บาท ยอดขายหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 30,000 บาท ต่อเดือน ต่อสาขา มีแผนเปิดสาขาเพิ่มหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำเลการขยายสาขาของเรายังคงมุ่งเน้นไปที่สถาบันการศึกษา เพราะจากประสบการณ์พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของเราจะเป็นวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา เป็นส่วนใหญ่
โทร.08-6600-1090 |