เฉาก๊วย ขนมหวานเพื่อสุขภาพ ที่อยู่คู่คนไทยในทุกพื้นที่ ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหนภาคไหนของเมืองไทย ก็จะได้กินเฉาก๊วย และจากเฉาก๊วย ที่เห็นอาแป๊ะแก่ๆขายข้างถนน ได้ถูกยกระดับปรับสูตรยกเครื่องใหม่ มีการออกแบบเฉาก๊วยให้กินพร้อมกับเครื่องเคียงมากมาย พร้อมกับช่องทางการขายใหม่ รวมถึง การขยายตลาดในรูปแบบของแฟรนไชส์
ผ่านมา ได้มีโอกาสเห็นแฟรนไชส์เฉาก๊วย ในหลายแบรนด์ หลายยี่ห้อ แต่ละคนมีสูตรเด็ดเฉพาะของตัวเอง ที่งัดออกมามัดใจลูกค้า แต่สำหรับแฟรนไชส์เฉาก๊วย น้องใหม่ ที่ใช้ชื่อว่า “เฉาก๊วยโชคชัย” เป็นน้องใหม่ ที่ขอแจ้งเกิดในธุรกิจแฟรนไชส์เฉาก๊วยกับเขาด้วยเหมือนกัน
นายสิทธิเดช ธุรกิจเสรี เจ้าของแฟรนไชส์ เฉาก๊วยโชคชัย เล่าว่า ตนเองได้เปิดธุรกิจแฟรนไชส์เฉาก๊วยมาได้ไม่ถึง หนึ่งเดือน จุดขายอยู่ที่ความหลากหลายของเครื่องเคียงที่มีให้เลือกกันมากถึง 10 ชนิด อาทิ ข้าวโพด ถั่วแดง แปะก๊วยเชื่อม พุทราจีน แห้ว ฟักทอง ลูกชิด วุ้นมะพร้าว นอกจากนี้ ยังมีเครื่องเคียงที่ออกตามฤดูกาล เช่น ลูกตาล กล้วยตาก ลำไย ฯลฯ
ทั้งนี้ จุดขายอีกอย่างหนึ่งที่เราเชื่อว่า ลูกค้าจะเลือกกินเฉาก๊วยของโชคชัย เพราะในส่วนของกระบวนการผลิต เฉาก๊วย เราจะให้ความสำคัญกับการเลือกวัตถุดิบตัวหญ้าเกรด A ราคาหญ้าเฉาก๊วยกิโลกรัมละ 160 บาท โดยหญ้าเฉาก๊วยแห้ง 5กิโลกรัม ได้เนื้อเฉาก๊วยได้ 40 กิโลกรัม ส่วนของขั้นตอนในการทำนั้น เราให้ความสำคัญกับการต้มและเคี่ยวหญ้าเฉาก๊วยเป็นเวลานานหลายชั่วโมง
เพื่อให้เนื้อเฉาก๊วยที่มีความเข้มข้น และมีความหนึบเหนียว โดยการต้มจะเลือกใช้หม้อที่ปลอดสารตะกั่ว เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เพราะที่ผ่านมา ได้มีโอกาสได้เห็นการต้มเฉาก๊วยที่ใช้ปีบ ซึ่งดูไม่สะอาดและปลอดภัย
“โดยทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น เราเชื่อว่า น่าจะเป็นจุดขายที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการเลือกกินเฉาก๊วยของเรา เพราะโดยส่วนตัวครอบครัวก็ชอบกินเฉาก๊วยกันอยู่แล้ว แต่พอได้เห็นถึงขั้นตอนการผลิตก็รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย เราจึงหันมาทำกินเอง และถือโอกาสทำขายด้วย ซึ่งก่อนจะมาเปิดขายแฟรนไชส์ เราได้ทำเฉาก๊วยส่งขายตามร้านอาหารอยู่บ้างแล้ว รวมถึงส่งขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ผลตอบรับออกมาค่อนข้างน่าพอใจ เราจึงมั่นใจที่จะขยายธุรกิจในรูปแบบของแฟรนไชส์”เพื่อให้เนื้อเฉาก๊วยที่มีความเข้มข้น และมีความหนึบเหนียว โดยการต้มจะเลือกใช้หม้อที่ปลอดสารตะกั่ว เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เพราะที่ผ่านมา ได้มีโอกาสได้เห็นการต้มเฉาก๊วยที่ใช้ปีบ ซึ่งดูไม่สะอาดและปลอดภัย
สำหรับรูปแบบของแฟรนไชส์ จะเป็นลักษณะคีออสรถเข็น เพื่อให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์สามารถเข็นไปขายตามจุดต่างๆได้ ในส่วนของราคาแฟรนไชส์ อยู่ที่ 17,900 บาท สิ่งที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะได้ คือ คีออสรถเข็น พร้อมป้าย อุปกรณ์ต่างๆ อาทิ โถแก้ว หม้อตุ่น 2 ชั้น สำหรับใช้อุ่นเครื่อง กระติกน้ำแข็ง กรวยสแตนเลส ถาด ถ้วยกระดาษ ช้อน เป็นต้น ซึ่งในช่วงโปรโมทชั่นเริ่มต้น แถมเฉาก๊วย พร้อมเครื่องเคียงในราคา 1,500 บาท
ในส่วนที่แฟรนไชส์จะต้องซื้อกับเจ้าของแฟรนไชส์จะมีเพียง เฉาก๊วย ส่วนของเครื่องเคียงทางเจ้าของแฟรนไชส์ทำเอง หรือ ไปหาซื้อเองได้ เพราะมีคู่มือในการทำเครื่องเคียงให้ด้วย โดยจัดส่งเฉาก๊วยให้ในลักษณะสำเร็จรูป คือ หั่นเฉาก๊วยเป็นลูกเต๋าใส่ลงในน้ำเชื่อม ใส่ในซองพลาสติก เพียงแค่ฉีกซองออก และตักใส่ถ้วยก็ขายได้เลย ลดขั้นตอนและความยุ่งยากในการเตรียมอุปกรณ์ ใช้เวลาเพียงแค่ เตรียมเครื่องเคียง ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก็เปิดร้านขายได้แล้ว และที่สำคัญสามารถจ้างเด็กขายได้ เพราะสามารถนับแพคจำนวนขาย จากเฉาก๊วยแต่ละถุงได้ โดยกำหนดว่าเฉาก๊วย 1 ถุง ราคา 35 บาท จะต้องตักขายให้ได้จำนวน 6 ถ้วยโดยราคาขายหน้าร้านอยู่ที่ ถ้วยละ 20 บาท เลือกเครื่องได้ 3 ชนิด ซึ่งโอกาสคืนทุนจะขึ้นอยู่กับทำเลและยอดขายของแต่ละสาขา ตั้งไว้ว่า ถ้าขายได้วันละ 50 ถ้วยขึ้นไปบวกค่าเช่าไม่เกิน 3,000 บาท โอกาสคืนทุนอยู่ที่ประมาณ 2 เดือน ซึ่งตั้งเป้าขยายสาขาแฟรนไชส์ปีแรกไว้จำนวน 50 สาขา ปีแรกเน้นการขยายสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน ปัจจุบันมีส่งไปขายในร้านอาหารที่จังหวัดนครราชสีมา ในช่วงแรกเน้นในกรุงเทพฯ เพราะเรายังคงสามารถดูแลได้ทั่วถึง ถ้าแฟรนไชส์มีปัญหา
นายสิทธิเดช เล่าว่า ในส่วนของเฉาก๊วย เราได้มีการนำมาบรรจุขวดเป็นน้ำเฉาก๊วย เพราะเดิมทำน้ำสมุนไพรส่งขายตามร้านอาหารอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น น้ำเก๊กฮวย มะตูม ลำไย และกระเจี๊ยบ และจุดขายอีกอย่างหนึ่งของเฉาก๊วยของเรา คือมีการเติมน้ำลำไย และชะเอม เพื่อให้เกิดความเย็นสดชื่น ส่วนน้ำลำไยที่เติมลงไปเพื่อช่วยดับกลิ่นของหญ้าเฉาก๊วย และมีความหวานตามธรรมชาติจากน้ำลำไย ส่วนตัวเนื้อเฉาก๊วยมีการเติมชะเอมให้กินเย็น
"สำหรับตรงนี้ถือว่าเป็นเคล็ดลับของเรา ที่แตกต่างจากเฉาก๊วยทั่วๆไป และด้วยความที่เราผลิตเอง เราจึงมั่นใจเรื่องคุณภาพ ถ้าลูกค้าแฟรนไชส์ซื้อไปเชื่อว่าน่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก เพียงแค่มีแหล่งทำเลการขายที่ดี เพราะที่ผ่านมาประสบการณ์จากการทำโจ๊กบางกอก ประสบความสำเร็จมาแล้ว จากจำนวนสาขาที่มีมากถึง 140 สาขา และที่หันมาทำแฟรนไชส์เฉาก๊วยในครั้งนี้ เกิดมาจากเมื่อครั้งไปออกงานแสดงสินค้า คนที่มาเดินหาซื้อแฟรนไชส์ก็ต้องการแฟรนไชส์ราคาถูกที่ไม่เกิน 20,000บาท ถึง 30,000 บาท"
ในขณะที่แฟรนไชส์โจ๊กบางกอกของเราก็มีคนสนใจ แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง เป็นหลักแสนบาท จึงขายได้น้อยมาก และมีขั้นตอนการทำที่ค่อนข้างซับซ้อน เราจึงคิดทำแฟรนไชส์เฉาก๊วยออกมา เพราะมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน ใครก็สามารถเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ได้ด้วยราคาที่ไม่แพง โอกาสเสี่ยงมีน้อยกว่า โทร. 08-1649-2420
อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์
อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์
