สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ตอนเย็น ๆ ผมเกิดอาการอยากกินอะไรที่มันเผ็ด ๆ เปรี้ยว ๆ จึงได้ไปหาซื้อสารพัดยำมากิน ก็อร่อยดีและสังเกตุเห็นว่า ร้านขายสารพัดยำนี้มีลูกค้ามารอซื้อไม่ขาดสาย และซื้อกันทีละเยอะ ๆ ทีละหลาย ๆ อย่างซะด้วย ขายกันมือเป็นระวิงนับเงินไม่ทันกันเลยทีเดียว
ผมก็เลยมาหาข้อมูลของอาชีพอิสระ การทำสารพัดยำ และสูตรการทำน้ำยำมานำเสนอให้กับคุณผู้อ่านทุกท่าน ได้ลองทำรับประทานกันดู หรือหากทำอร่อยฝีมือดี จะลองทำขายหารายได้เสริมอีกทางก็น่าจะดีไม่น้อย มาดูกันครับว่าการจะทำอาชีพเสริมขายสารพัดยำให้สำเร็จจะต้องมีเคล็ดลับอะไรกันบ้าง
เค้าบอกไว้ว่าอาหารประเภทยำแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือประเภทยำเนื้อสัตว์ กับ ยำผักผลไม้ โดยพื้นฐานของรสชาติและวัตถุดิบหลัก ที่นำมาใช้นั้นแตกต่างกัน จะเห็นได้ว่า ยำเนื้อสัตว์ จะเน้นใส่พืชผักตระกูลสมุนไพรที่มีกลิ่นแรงเป็นส่วนประกอบ เช่น หอมแดง หอมใหญ่ คื่นไฉ่ กระเทียม เพื่อจะได้ช่วยกลบกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ เวลายำต้องให้มีรสชาติจัดจ้าน แต่ถ้าเป็นยำพวกผักผลไม้ มักลดพวกเครื่องสมุนไพรที่มีกลิ่นแรงลง เช่นยำผลไม้บางจานอาจไม่ใส่แม้กระทั่งกระเทียมเลย
2. การทำน้ำยำ สำหรับคนที่เป็นแม่บ้านมือโปร ก็คงจะไม่เป็นปัญหา เพียงแค่ตักๆตวงๆ คลุกๆ คนไปชิมไปก็อร่อยแล้ว แต่สำหรับมือใหม่ มีหวังชิมจนหมดชามก็ยังหาความอร่อยไม่เจอ เค้าแนะนำไว้ว่าให้ผสมน้ำยำขึ้นมาก่อน แล้วจึงนำไปคลุกกับส่วนผสมอย่างอื่น วิธีทำน้ำยำก็เพียงแค่ทำน้ำตาลละลายเป็นน้ำเชื่อมก่อนเอาแค่ข้นพอควร จากนั้นพักไว้ให้คลายความร้อน ทีนี้ก็ผสมน้ำปลา และน้ำมะนาวในสัดส่วนที่เท่าๆกัน ใส่เกลือป่นเล็กน้อย คนให้ละลาย ตักน้ำเชื่อมผสมลงไป จากนั้นชิมรสชาติให้ได้ตามชอบ ควรให้ได้ รสเปรี้ยว เค็ม หวาน เท่าๆ กันไว้ก่อน ส่วนรสเผ็ด ให้โขลกกระเทียม พริกขี้หนู ให้เข้ากัน หรือไม่ก็อาจซอยพริกขี้หนู หรือบุบแค่พอแตกก็ได้ รสชาติอาจจะเผ็ดน้อยลงไปบ้าง แล้วค่อยเอามาผสมลงในน้ำยำที่เตรียมไว้ เวลาใส่ก็ค่อยตักใส่ทีละนิดเพื่อที่จะได้ไม่เผ็ดเกินไปเดี๋ยวจะแก้ไขยาก
3 ขั้นตอนเวลายำ ก็ถือว่าสำคัญมากเหมือนกัน เวลายำให้คลุกส่วนผสมหลักให้พอเข้ากันก่อน จากนั้นผสมนำยำลงไปคลุกให้เข้ากัน ปรุงและชิมรสเพิ่มได้ตามชอบ ส่วนผสมที่มีความกรอบควรเก็บเอาไว้ใส่ในขั้นตอนสุดท้ายหลังจากชิมได้ที่แล้ว จึงใส่ลงไปเคล้าให้เข้ากัน แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
การปรุงน้ำยำ น้ำยำต้องมีสามรส คือ เปรี้ยว เค็มและหวาน การปรุงให้พอดีทั้ง 3 รส นับเป็นการยากที่จะได้รสพอเหมาะพอดีทุกครั้งไป โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้ปรุงอาหารบ่อยๆ นับว่าเป็นปัญหาและอุปสรรคในการทำอาหารให้มีรสชาติที่ดีได้ ดังนั้น เพื่อช่วยให้คุณผู้อ่านหรือผู้ที่สนใจทำอาหารประเภทยำให้ได้รสชาติมาตรฐานทำ ได้ง่ายสะดวก และขจัดปัญหาความไม่อร่อย จึงได้แนะนำวิธีปรุงและสูตรน้ำยำแบบต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการทำอาหารประเภทยำ เพราะการปรุงน้ำยำ คืออย่าผสมรสหนึ่งรสใดทีละอย่าง เพราะจะได้รสชาติที่ไม่ลงตัว ทำให้ได้ยำที่มีน้ำเจิ่งนอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของยำที่ไม่ถูกต้องทั้งด้านรสชาติและคุณค่า ฉะนั้นจึงจำเป็นที่ต้องปรุงน้ำยำให้ได้ 3 รส พอเหมาะก่อนจึงจะนำไปเคล้าในเนื้อสัตว์และส่วนผสมอื่นที่เตรียมไว้
น้ำปลาดี 6 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ (หรือน้ำตาลทราย) 6 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ รวมกันได้น้ำยำ 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ ผสมเครื่องปรุงคนให้เข้ากัน ใช้คลุกกับเครื่องยำ
สูตรที่ 2
น้ำ ปลาดี 6 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ กระเทียมหั่น 1 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูหั่น 1 ช้อนโต๊ะ รวมกันแล้วได้น้ำยำ 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ ผสมเครื่องปรุงคนให้เข้ากัน ใช้คลุกกับเครื่องยำ
สูตรที่ 3
น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด หรือพริกขี้หนู 1 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา กระเทียม 1 ช้อนชา
วิธีทำโขลกพริกชี้ฟ้า กระเทียม เกลือให้ละเอียด (ตำพริกขี้หนูบุบพอแตก) แล้วละลายกับน้ำปลา น้ำตาล และน้ำมะนาว คนให้เข้ากันใช้ยำหอยแครง ยำปลาย่าง
สูตรที่ 4
น้ำปลาดี 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 6 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ น้ำส้ม 2 ช้อนโต๊ะ รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด กระเทียม 1 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ โขลกรากผักชี พริกชี้ฟ้า กระเทียม เกลือ ให้ละเอียดละลายกับเครื่องปรุงคนให้เข้ากันใช้ยำใหญ่ ยำญวน
สูตรที่ 5
น้ำปลาดี 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 6 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียกคั้นข้น 3 ช้อนโต๊ะ พริกแห้งเผา 3 เม็ด กระเทียมเผา 1 ช้อนโต๊ะ หอมเผา 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา หัวกะทิคนไฟ 4 ช้อนโต๊ะ ทำน้ำพริกเผาสำหรับยำ
วิธีทำ โขลกน้ำพริกเผา ผสมกับหัวกะทิแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลาดี น้ำส้ม น้ำมะขามเปียกและน้ำมะนาว ใช้ปรุงยำหนังหมู ยำหัวปลี
สูตรที่ 6
พริกขี้หนู 1 ช้อนชา กะปิเผา ? ช้อนชา กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ โขลกพริกขี้หนู กะปิ กระเทียม เกลือ ให้ละเอียดผสมกับน้ำมะนาวใช้ยำพวกสะตอ
สูตรที่ 7
ปลากรอบ ? ถ้วยตวง น้ำส้มมะขามคั้น 6 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ น้ำปลาดี 3 ช้อนโต๊ะ พริกแห้ง 3 เม็ด หอมเผา 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมเผา 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา กะทิ 2 ถ้วยตวง
วิธีทำ 1. เคี่ยวกะทิให้แตกมัน
2. ฉีกพริกแห้งล้างเม็ดออกโขลกกับเกลือให้ละเอียด แล้วใส่ปลากรอบโขลกให้เข้ากัน
3. ละลายน้ำพริกในกะทิ ปรุงรสด้วยน้ำส้มมะขามเปียก น้ำตาลและน้ำปลา พอเดือดยกลง ใช้ปรุงยำทลายหรือยำพวกผักสุก
เคล็ดลับเพิ่มเติมอีกนิดนึง สำหรับท่านที่ชอบทานกระเทียมดอง ก็อาจจะซอยเนื้อกระเทียมหรือน้ำกระเทียมดองใส่ลงไปด้วย ก็จะช่วยชูรสชาติของยำให้อร่อยยิ่งขึ้นได้
ไปหน้าแรก รายได้เสริมแก้จน
ผมก็เลยมาหาข้อมูลของอาชีพอิสระ การทำสารพัดยำ และสูตรการทำน้ำยำมานำเสนอให้กับคุณผู้อ่านทุกท่าน ได้ลองทำรับประทานกันดู หรือหากทำอร่อยฝีมือดี จะลองทำขายหารายได้เสริมอีกทางก็น่าจะดีไม่น้อย มาดูกันครับว่าการจะทำอาชีพเสริมขายสารพัดยำให้สำเร็จจะต้องมีเคล็ดลับอะไรกันบ้าง
เค้าบอกไว้ว่าอาหารประเภทยำแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือประเภทยำเนื้อสัตว์ กับ ยำผักผลไม้ โดยพื้นฐานของรสชาติและวัตถุดิบหลัก ที่นำมาใช้นั้นแตกต่างกัน จะเห็นได้ว่า ยำเนื้อสัตว์ จะเน้นใส่พืชผักตระกูลสมุนไพรที่มีกลิ่นแรงเป็นส่วนประกอบ เช่น หอมแดง หอมใหญ่ คื่นไฉ่ กระเทียม เพื่อจะได้ช่วยกลบกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ เวลายำต้องให้มีรสชาติจัดจ้าน แต่ถ้าเป็นยำพวกผักผลไม้ มักลดพวกเครื่องสมุนไพรที่มีกลิ่นแรงลง เช่นยำผลไม้บางจานอาจไม่ใส่แม้กระทั่งกระเทียมเลย
ดังนั้นวิธีที่จะทำอาหารประเภทยำให้ออกมาอร่อยต้องคำนึงถึงหลักใหญ่ๆ อยู่ 3 ขั้นตอน อันได้แก่
1. การเลือกวัตถุดิบที่จะมาใช้ในการยำ ต้องเน้นเลือกของที่มีความสดใหม่ เพราะแค่ของที่ใช้ไม่สดเท่านั้น ต่อฝีมือดีแค่ไหนก็ไม่มีทางทำออกมาได้อร่อย ฉะนั้นสิ่งสำคัญของความอร่อยก็ยังอยู่ที่ความสดใหม่อยู่ตลอดกาล2. การทำน้ำยำ สำหรับคนที่เป็นแม่บ้านมือโปร ก็คงจะไม่เป็นปัญหา เพียงแค่ตักๆตวงๆ คลุกๆ คนไปชิมไปก็อร่อยแล้ว แต่สำหรับมือใหม่ มีหวังชิมจนหมดชามก็ยังหาความอร่อยไม่เจอ เค้าแนะนำไว้ว่าให้ผสมน้ำยำขึ้นมาก่อน แล้วจึงนำไปคลุกกับส่วนผสมอย่างอื่น วิธีทำน้ำยำก็เพียงแค่ทำน้ำตาลละลายเป็นน้ำเชื่อมก่อนเอาแค่ข้นพอควร จากนั้นพักไว้ให้คลายความร้อน ทีนี้ก็ผสมน้ำปลา และน้ำมะนาวในสัดส่วนที่เท่าๆกัน ใส่เกลือป่นเล็กน้อย คนให้ละลาย ตักน้ำเชื่อมผสมลงไป จากนั้นชิมรสชาติให้ได้ตามชอบ ควรให้ได้ รสเปรี้ยว เค็ม หวาน เท่าๆ กันไว้ก่อน ส่วนรสเผ็ด ให้โขลกกระเทียม พริกขี้หนู ให้เข้ากัน หรือไม่ก็อาจซอยพริกขี้หนู หรือบุบแค่พอแตกก็ได้ รสชาติอาจจะเผ็ดน้อยลงไปบ้าง แล้วค่อยเอามาผสมลงในน้ำยำที่เตรียมไว้ เวลาใส่ก็ค่อยตักใส่ทีละนิดเพื่อที่จะได้ไม่เผ็ดเกินไปเดี๋ยวจะแก้ไขยาก
3 ขั้นตอนเวลายำ ก็ถือว่าสำคัญมากเหมือนกัน เวลายำให้คลุกส่วนผสมหลักให้พอเข้ากันก่อน จากนั้นผสมนำยำลงไปคลุกให้เข้ากัน ปรุงและชิมรสเพิ่มได้ตามชอบ ส่วนผสมที่มีความกรอบควรเก็บเอาไว้ใส่ในขั้นตอนสุดท้ายหลังจากชิมได้ที่แล้ว จึงใส่ลงไปเคล้าให้เข้ากัน แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
การปรุงน้ำยำ น้ำยำต้องมีสามรส คือ เปรี้ยว เค็มและหวาน การปรุงให้พอดีทั้ง 3 รส นับเป็นการยากที่จะได้รสพอเหมาะพอดีทุกครั้งไป โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้ปรุงอาหารบ่อยๆ นับว่าเป็นปัญหาและอุปสรรคในการทำอาหารให้มีรสชาติที่ดีได้ ดังนั้น เพื่อช่วยให้คุณผู้อ่านหรือผู้ที่สนใจทำอาหารประเภทยำให้ได้รสชาติมาตรฐานทำ ได้ง่ายสะดวก และขจัดปัญหาความไม่อร่อย จึงได้แนะนำวิธีปรุงและสูตรน้ำยำแบบต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการทำอาหารประเภทยำ เพราะการปรุงน้ำยำ คืออย่าผสมรสหนึ่งรสใดทีละอย่าง เพราะจะได้รสชาติที่ไม่ลงตัว ทำให้ได้ยำที่มีน้ำเจิ่งนอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของยำที่ไม่ถูกต้องทั้งด้านรสชาติและคุณค่า ฉะนั้นจึงจำเป็นที่ต้องปรุงน้ำยำให้ได้ 3 รส พอเหมาะก่อนจึงจะนำไปเคล้าในเนื้อสัตว์และส่วนผสมอื่นที่เตรียมไว้
มาดูสูตรการทำน้ำยำกันครับ
สูตรที่ 1น้ำปลาดี 6 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ (หรือน้ำตาลทราย) 6 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ รวมกันได้น้ำยำ 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ ผสมเครื่องปรุงคนให้เข้ากัน ใช้คลุกกับเครื่องยำ
สูตรที่ 2
น้ำ ปลาดี 6 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ กระเทียมหั่น 1 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูหั่น 1 ช้อนโต๊ะ รวมกันแล้วได้น้ำยำ 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ ผสมเครื่องปรุงคนให้เข้ากัน ใช้คลุกกับเครื่องยำ
สูตรที่ 3
น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด หรือพริกขี้หนู 1 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา กระเทียม 1 ช้อนชา
วิธีทำโขลกพริกชี้ฟ้า กระเทียม เกลือให้ละเอียด (ตำพริกขี้หนูบุบพอแตก) แล้วละลายกับน้ำปลา น้ำตาล และน้ำมะนาว คนให้เข้ากันใช้ยำหอยแครง ยำปลาย่าง
สูตรที่ 4
น้ำปลาดี 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 6 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ น้ำส้ม 2 ช้อนโต๊ะ รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด กระเทียม 1 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ โขลกรากผักชี พริกชี้ฟ้า กระเทียม เกลือ ให้ละเอียดละลายกับเครื่องปรุงคนให้เข้ากันใช้ยำใหญ่ ยำญวน
สูตรที่ 5
น้ำปลาดี 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 6 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียกคั้นข้น 3 ช้อนโต๊ะ พริกแห้งเผา 3 เม็ด กระเทียมเผา 1 ช้อนโต๊ะ หอมเผา 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา หัวกะทิคนไฟ 4 ช้อนโต๊ะ ทำน้ำพริกเผาสำหรับยำ
วิธีทำ โขลกน้ำพริกเผา ผสมกับหัวกะทิแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลาดี น้ำส้ม น้ำมะขามเปียกและน้ำมะนาว ใช้ปรุงยำหนังหมู ยำหัวปลี
สูตรที่ 6
พริกขี้หนู 1 ช้อนชา กะปิเผา ? ช้อนชา กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ โขลกพริกขี้หนู กะปิ กระเทียม เกลือ ให้ละเอียดผสมกับน้ำมะนาวใช้ยำพวกสะตอ
สูตรที่ 7
ปลากรอบ ? ถ้วยตวง น้ำส้มมะขามคั้น 6 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ น้ำปลาดี 3 ช้อนโต๊ะ พริกแห้ง 3 เม็ด หอมเผา 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมเผา 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา กะทิ 2 ถ้วยตวง
วิธีทำ 1. เคี่ยวกะทิให้แตกมัน
2. ฉีกพริกแห้งล้างเม็ดออกโขลกกับเกลือให้ละเอียด แล้วใส่ปลากรอบโขลกให้เข้ากัน
3. ละลายน้ำพริกในกะทิ ปรุงรสด้วยน้ำส้มมะขามเปียก น้ำตาลและน้ำปลา พอเดือดยกลง ใช้ปรุงยำทลายหรือยำพวกผักสุก
เคล็ดลับเพิ่มเติมอีกนิดนึง สำหรับท่านที่ชอบทานกระเทียมดอง ก็อาจจะซอยเนื้อกระเทียมหรือน้ำกระเทียมดองใส่ลงไปด้วย ก็จะช่วยชูรสชาติของยำให้อร่อยยิ่งขึ้นได้
ไปหน้าแรก รายได้เสริมแก้จน