อาชีพที่นำเสนอในครั้งนี้ แม้งบประมาณตั้งต้นจะค่อนข้างสูง แต่ก็เป็น “ช่องทางทำกิน” ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกับผู้ที่กำลังมองหาอาชีพที่สอง หรือผู้ที่อยากเป็นเถ้าแก่น้อย หรือเถ้าแก่เนี้ยน้อย ที่พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ด้วยวิธีการซื้อแฟรนไชส์
ฐิตินันท์ เกียรติไพบูลย์ หรือ “ก้อย” เป็นลูกสาว สมพล เกียรติไพบูลย์ อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งสนิทสนมกับนักข่าวสายพาณิชย์เป็นอย่างดี แต่ก้อยมักไม่ยอมบอกชื่อพ่อ จนกว่าจะถาม ตอนนี้อายุ 33 ปี และเป็นเจ้าของธุรกิจไอศกรีมแบรนด์ดังจากเกาหลี ไอศกรีมโยเกิรต์เพื่อสุขภาพ โดยอีกอาชีพหนึ่งก็คือนักกฎหมายของบริษัท Baker& Mc Kenzie ทำมา 6 ปีแล้ว ลูกความส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายใหญ่ ๆ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทำให้ได้รูปแบบทางธุรกิจเยอะ รวมทั้งทักษะทางกฎหมายสำหรับการลงทุน
การเป็นคนรุ่นใหม่ ชอบความท้าทายใหม่ ๆ พร้อมเปิดโอกาสตัวเองลองพิสูจน์ความสามารถด้านอื่น ๆ พอดีกับที่พี่ชายอยากให้ช่วยบริหารงานที่มีหุ้นส่วนเป็นคนเกาหลี อิงความแรงของเทรนด์เกาหลีในไทยต่อยอดธุรกิจ จึงได้นำเข้าเครื่องสำอาง Misha เข้ามาก่อน ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จ
สำหรับการนำเข้าไอศกรีม “red mango” ก้อยเล่าว่า มีจุดเริ่มต้นจาก มิสเตอร์ รอนนี่ ซู เจ้าของแบรนด์ เปิดสาขาแรกในต่างประเทศที่ L.A. แล้วได้รับการตอบรับดีมาก มีคนดังระดับฮอลลีวู้ดเป็นลูกค้าประจำ เมื่อตนเองไปสำรวจตลาดที่เกาหลี ได้กินไอศกรีมยี่ห้อนี้ เกิดติดใจรสชาติความอร่อย เลยบอกพี่ชายว่าอยากได้แบรนด์ตัวนี้ เมื่อติดต่อไปตอนแรกเค้าไม่ยอมให้ เพราะยังไม่แน่ใจว่าเราจะทำตลาดต่างประเทศได้ จึงเชิญมาดูตลาดไอศกรีมที่เมืองไทย ซึ่งมีทั้งมาจากอิตาลี นิวซีแลนด์ ฯลฯ แต่ยังไม่มีของเกาหลี
“ยุคนี้เป็นช่วงที่กระแสคนรักสุขภาพมาแรงมาก คนหันมาสนใจอาหารสุขภาพ และเริ่มออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กัน เจ้าของแบรนด์จึงเห็นโอกาสในการขยายสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชีย ตัดสินใจให้ลิขสิทธิ์กับบริษัท KRC (Thailand) จำกัด ที่ก้อยเป็นกรรมการผู้จัดการ ให้เป็นผู้นำเข้า Red Mango แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่เป็นโยเกิร์ตแบบ Non Fat ทานแล้วไม่อ้วน เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพทุกเพศทุกวัย”
ผลไม้ที่สั่งมาจากต่างประเทศอื่นเช่น ถั่วแดงเม็ดเล็ก ลูกพีช เป็นต้น โดยลูกค้าจะเลือกท็อปปิ้งเองตามชอบ ท็อปปิ้งอย่างละ 10 บาท สำหรับท็อปปิ้งยอดนิยมที่มีคนสั่งมากสุดคือ มะม่วง กีวี่ สตรอเบอรี่ ลิ้นจี่ ถั่วแดงเม็ดเล็ก และคอนเฟลก โดยไอศกรีมรสดั้งเดิม เป็นตัวยืนที่ได้รับความนิยม หลังเทศกาลถือศีลกินเจได้เพิ่มรสชาเขียวเข้ามาใหม่
ขนาดจำหน่ายของไอศกรีมแบรนด์นี้มี 3 ไซส์คือ ไซส์ SS ราคา 49 บาท, ไซส์ S ราคา 89 บาท, ไซส์ M ราคา139 บาท และไซส์ L ราคา 189 บาท (เป็นถ้วยใหญ่ ลูกค้าชอบสั่งเวลามาหลายคน)
จากความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ ทางเจ้าของแบรนด์จึงเปิดให้ผู้ประกอบการไทยเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ เป็น Exclusive แฟรนไชส์ในไทย โดยรูปแบบของร้านคือเป็นไอศกรีมไขมันต่ำ ที่กินแล้วไม่อ้วน เป็นไอศกรีมผลิตจากโยเกิร์ต มีแลคโตบาซิลลัส และน้ำตาลฟรุตโตสไม่ถึง 0.1%
ที่จะเพิ่มเสน่ห์คือ บรรยากาศของร้านต้องมีมุมสบาย ๆ สะอาดตา สไตล์คลาสสิก และดูสดใส เหมาะสำหรับนัดพูดคุยและพบปะสังสรรค์ โดยผลตอบรับของธุรกิจนี้นับว่าดีมาก ล่าสุดมีทั้งหมด 18 สาขาแล้ว ทั้งนี้ ใครสนใจต้องการร่วมธุรกิจไอศกรีม red mango ติดต่อสอบถามรายละเอียดเงื่อนไขแฟรนไชส์กับคุณก้อยได้ที่ โทร.0-2685-3121, 08-18021313 หรือดูในเว็บไซต์ www.redmangoThailand.com
กระแสความนิยมในเรื่องต่าง ๆ นั้น หากรู้จักนำหลักธุรกิจ หลักการประกอบอาชีพ เข้าไปจับได้อย่างเหมาะเจาะ-ถูกจุด ก็จะเกิดเป็นธุรกิจ เป็นอาชีพ ที่ประสบความสำเร็จได้ ซึ่งก็รวมถึงกระแส “เกาหลีฟีเว่อร์” กระแส “ตื่นตัวใส่ใจการกินเพื่อสุขภาพ” เช่นรายที่ทีม “ช่องทางทำกิน” นำเสนอเป็นกรณีศึกษารายนี้
คู่มือลงทุน...ไอศกรีม red mango
ทุนเบื้องต้น 1.5- 2 ล้าน ต้นทุนขึ้นกับขนาดร้าน
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 70% ของราคาขาย
รายได้ ถ้วยละ 49 บาท ถึง 189 บาท
แรงงาน 3-4 คนขึ้นไป
ตลาด ห้างสรรพสินค้า, ย่านช็อปปิ้ง
จุดน่าสนใจ เข้ากระแสเกาหลี-รักสุขภาพ
ที่มา: http://women.sanook.com/work/108jobs/108jobs_52906.php
ฐิตินันท์ เกียรติไพบูลย์ หรือ “ก้อย” เป็นลูกสาว สมพล เกียรติไพบูลย์ อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งสนิทสนมกับนักข่าวสายพาณิชย์เป็นอย่างดี แต่ก้อยมักไม่ยอมบอกชื่อพ่อ จนกว่าจะถาม ตอนนี้อายุ 33 ปี และเป็นเจ้าของธุรกิจไอศกรีมแบรนด์ดังจากเกาหลี ไอศกรีมโยเกิรต์เพื่อสุขภาพ โดยอีกอาชีพหนึ่งก็คือนักกฎหมายของบริษัท Baker& Mc Kenzie ทำมา 6 ปีแล้ว ลูกความส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายใหญ่ ๆ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทำให้ได้รูปแบบทางธุรกิจเยอะ รวมทั้งทักษะทางกฎหมายสำหรับการลงทุน
การเป็นคนรุ่นใหม่ ชอบความท้าทายใหม่ ๆ พร้อมเปิดโอกาสตัวเองลองพิสูจน์ความสามารถด้านอื่น ๆ พอดีกับที่พี่ชายอยากให้ช่วยบริหารงานที่มีหุ้นส่วนเป็นคนเกาหลี อิงความแรงของเทรนด์เกาหลีในไทยต่อยอดธุรกิจ จึงได้นำเข้าเครื่องสำอาง Misha เข้ามาก่อน ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จ
สำหรับการนำเข้าไอศกรีม “red mango” ก้อยเล่าว่า มีจุดเริ่มต้นจาก มิสเตอร์ รอนนี่ ซู เจ้าของแบรนด์ เปิดสาขาแรกในต่างประเทศที่ L.A. แล้วได้รับการตอบรับดีมาก มีคนดังระดับฮอลลีวู้ดเป็นลูกค้าประจำ เมื่อตนเองไปสำรวจตลาดที่เกาหลี ได้กินไอศกรีมยี่ห้อนี้ เกิดติดใจรสชาติความอร่อย เลยบอกพี่ชายว่าอยากได้แบรนด์ตัวนี้ เมื่อติดต่อไปตอนแรกเค้าไม่ยอมให้ เพราะยังไม่แน่ใจว่าเราจะทำตลาดต่างประเทศได้ จึงเชิญมาดูตลาดไอศกรีมที่เมืองไทย ซึ่งมีทั้งมาจากอิตาลี นิวซีแลนด์ ฯลฯ แต่ยังไม่มีของเกาหลี
“ยุคนี้เป็นช่วงที่กระแสคนรักสุขภาพมาแรงมาก คนหันมาสนใจอาหารสุขภาพ และเริ่มออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กัน เจ้าของแบรนด์จึงเห็นโอกาสในการขยายสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชีย ตัดสินใจให้ลิขสิทธิ์กับบริษัท KRC (Thailand) จำกัด ที่ก้อยเป็นกรรมการผู้จัดการ ให้เป็นผู้นำเข้า Red Mango แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่เป็นโยเกิร์ตแบบ Non Fat ทานแล้วไม่อ้วน เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพทุกเพศทุกวัย”
ก้อยบอกว่า ธุรกิจไอศกรีมบ้านเรายังโตได้สบาย เพราะสภาพอากาศร้อนเกือบทั้งปี และสินค้าที่นำเข้ามา หากเปรียบเทียบคู่แข่งระดับเดียวกัน ยังไม่มี จัดอยู่ในระดับพรีเมี่ยม เน้นคุณภาพ รสชาติที่กลมกล่อม มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจคือท๊อปปิ้งที่ใส่ เป็นผลไม้สดตามฤดูกาลที่เลือกสรรมาอย่างดี อาทิ กีวี่, แตงโม ,สตรอเบอรี่, แคนตาลูป, ส้มแมนดาริน, สับปะรด และผลไม้กระป๋อง มีลำไย ลิ้นจี่ และธัญพืชประเภทเมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ของขบเคี้ยว คอนเฟลก และซีเรียล
ผลไม้ที่สั่งมาจากต่างประเทศอื่นเช่น ถั่วแดงเม็ดเล็ก ลูกพีช เป็นต้น โดยลูกค้าจะเลือกท็อปปิ้งเองตามชอบ ท็อปปิ้งอย่างละ 10 บาท สำหรับท็อปปิ้งยอดนิยมที่มีคนสั่งมากสุดคือ มะม่วง กีวี่ สตรอเบอรี่ ลิ้นจี่ ถั่วแดงเม็ดเล็ก และคอนเฟลก โดยไอศกรีมรสดั้งเดิม เป็นตัวยืนที่ได้รับความนิยม หลังเทศกาลถือศีลกินเจได้เพิ่มรสชาเขียวเข้ามาใหม่
ขนาดจำหน่ายของไอศกรีมแบรนด์นี้มี 3 ไซส์คือ ไซส์ SS ราคา 49 บาท, ไซส์ S ราคา 89 บาท, ไซส์ M ราคา139 บาท และไซส์ L ราคา 189 บาท (เป็นถ้วยใหญ่ ลูกค้าชอบสั่งเวลามาหลายคน)
จากความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ ทางเจ้าของแบรนด์จึงเปิดให้ผู้ประกอบการไทยเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ เป็น Exclusive แฟรนไชส์ในไทย โดยรูปแบบของร้านคือเป็นไอศกรีมไขมันต่ำ ที่กินแล้วไม่อ้วน เป็นไอศกรีมผลิตจากโยเกิร์ต มีแลคโตบาซิลลัส และน้ำตาลฟรุตโตสไม่ถึง 0.1%
ที่จะเพิ่มเสน่ห์คือ บรรยากาศของร้านต้องมีมุมสบาย ๆ สะอาดตา สไตล์คลาสสิก และดูสดใส เหมาะสำหรับนัดพูดคุยและพบปะสังสรรค์ โดยผลตอบรับของธุรกิจนี้นับว่าดีมาก ล่าสุดมีทั้งหมด 18 สาขาแล้ว ทั้งนี้ ใครสนใจต้องการร่วมธุรกิจไอศกรีม red mango ติดต่อสอบถามรายละเอียดเงื่อนไขแฟรนไชส์กับคุณก้อยได้ที่ โทร.0-2685-3121, 08-18021313 หรือดูในเว็บไซต์ www.redmangoThailand.com
กระแสความนิยมในเรื่องต่าง ๆ นั้น หากรู้จักนำหลักธุรกิจ หลักการประกอบอาชีพ เข้าไปจับได้อย่างเหมาะเจาะ-ถูกจุด ก็จะเกิดเป็นธุรกิจ เป็นอาชีพ ที่ประสบความสำเร็จได้ ซึ่งก็รวมถึงกระแส “เกาหลีฟีเว่อร์” กระแส “ตื่นตัวใส่ใจการกินเพื่อสุขภาพ” เช่นรายที่ทีม “ช่องทางทำกิน” นำเสนอเป็นกรณีศึกษารายนี้
คู่มือลงทุน...ไอศกรีม red mango
ทุนเบื้องต้น 1.5- 2 ล้าน ต้นทุนขึ้นกับขนาดร้าน
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 70% ของราคาขาย
รายได้ ถ้วยละ 49 บาท ถึง 189 บาท
แรงงาน 3-4 คนขึ้นไป
ตลาด ห้างสรรพสินค้า, ย่านช็อปปิ้ง
จุดน่าสนใจ เข้ากระแสเกาหลี-รักสุขภาพ
ที่มา: http://women.sanook.com/work/108jobs/108jobs_52906.php