ss "Tommy Ice" การกลับมาของชานมไข่มุกสัญชาติไทย เน้นสร้างแบรนด์สู่สากล - อาชีพเสริมแก้จน

ติดต่อโฆษณา

"Tommy Ice" การกลับมาของชานมไข่มุกสัญชาติไทย เน้นสร้างแบรนด์สู่สากล


ถ้าพูดถึงชานมไข่มุก เครื่องดื่มยอดนิยมเมื่อหลายปีก่อน และจนกระทั่งเมื่อ
3-4 ปีที่ผ่านมาความนิยมในเครื่องดื่มชนิดนี้ค่อยๆ ลดลงเพราะกระแสของกาแฟสดเข้ามาแทนที่ แต่เมื่อถามถึงวันนี้ ถ้าใครสังเกตก็คงพอจะรู้สึกได้ว่า กระแสของชานมไข่มุกได้กลับมาอีกครั้ง และกำลังจะเบียดแซงกาแฟสดขึ้นมาได้อีก ด้วยเหตุผลที่ว่า เด็ก วัยรุ่น และคนบางกลุ่มที่ไม่ดื่มกาแฟหันมาเลือกดื่มชานมไข่มุกแทน
สำหรับการแข่งขันในธุรกิจชานมไข่มุกเริ่มส่อเค้าให้เห็นถึงความรุนแรงเพราะมีแฟรนไชส์ใหม่เกิดขึ้นมากหน้าหลายตา ทุกคนเริ่มแข่งขันกันที่รสชาติ ความเข้มข้นของชา และคุณภาพของไข่มุก ซึ่งวัตถุดิบที่เชื่อกันว่ามีคุณภาพต้องนำเข้ามาจากประเทศต้นตำรับอย่างไต้หวัน บวกกับความทันสมัยของการจัดรูปแบบร้านและแบรนด์ ซึ่งปัจจุบันถ้าเป็นคอชานมไข่มุก ชื่อของ “Tommy Ice” ถือได้ว่าเป็นอันดับต้นที่คนเมืองหลวงและปริมณฑลนึกถึง เพราะด้วยรสชาติ บวกกับความทันสมัย ที่ทาง “ศักฤทธิ์ ฤทธิ์เดชหรือชื่อที่เรียกกันติดปากว่า ทอมมีได้บรรจงสร้างแบรนด์ชานมไข่มุก Tommy Ice ขึ้นมาอย่างตั้งใจ เพื่อทำให้แบรนด์นี้ได้ติดอยู่เบอร์ต้นของชานมไข่มุกเมืองไทย โดยคนไทย

ทอมมีเล่าให้ฟังว่า ได้สร้างแบรนด์ Tommy Ice ขึ้นมา โดยให้ความสำคัญต่อ 2 เรื่องหลัก คือ รสชาติที่ต้องเป็นรสชาติของชาที่มาจากชาคุณภาพจริง ไม่ใช่ชาแต่งกลิ่นสังเคราะห์ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ในส่วนของไข่มุก ต้องเป็นไข่มุกคุณภาพที่นำเข้าจากไต้หวัน เพราะปัจจุบันยังหาผู้ผลิตไข่มุกที่มีคุณภาพในเมืองไทยไม่ได้ รวมถึงชาบางตัวที่ต้องนำเข้าจากไต้หวันเช่นกัน และเรื่องที่สองคือ รูปแบบ หรือภาพลักษณ์ของร้าน โดยเรายอมที่จะจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อออกแบบและสร้างรูปแบบคีออสก์ และโลโก้ รวมไปถึงบรรจุภัณฑ์ที่เน้นความเป็นสากลให้มากที่สุด

ผมได้ใช้เวลาในการออกแบบรูปแบบของ Tommy Ice อยู่นานกว่าจะได้ออกมาในลักษณะที่มองว่ามีความทันสมัยและเป็นสากล โดยได้มีการปรับรูปแบบตั้งแต่เริ่มทำจนถึงปัจจุบันอยู่หลายครั้งกว่าจะออกมาอย่างที่ต้องการ สร้างความรู้สึกถึงความเป็นสากลแก่ผู้ที่ได้พบเห็น จะเห็นได้ว่าเราไม่ใช้ภาษาอื่นเลยนอกจากภาษาอังกฤษ เพราะเชื่อว่าความทันสมัย หรือความเป็นสากลเป็นส่วนหนึ่งช่วยดึงดูดลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ ส่วนของรสชาติ แม้ว่าจะอิงรูปแบบของไต้หวัน แต่ก็ไม่ได้ทำรสชาติเหมือนกับไต้หวันเสียทีเดียว เพราะกลุ่มลูกค้าเป็นคนไทย ได้มีการปรับรสชาติในแบบที่คนไทยชื่นชอบ คือคนไทยชอบรสชาติที่มีความหลากหลาย มีความเข้มข้นหวานมัน ในขณะที่ไต้หวันนิยมรสชาติที่เป็นธรรมชาติของความเป็นชามากกว่าเรา แต่คนไทยต้องมีความเข้มข้นหวานมันของนมและน้ำตาล
โดยผลิตภัณฑ์ของร้านชานมไข่มุก Tommy Ice ไม่ได้มีเพียงแค่ชานมไข่มุก แต่มีผลิตภัณฑ์อื่นๆ แบ่งออกได้ถึง 6 ประเภท ได้แก่ ชานมไข่มุก ชานมไข่มุกรสชาติต่างๆ เช่น รสพีช รสแอปเปิล บลูเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี เป็นต้น ชาเขียว ชาเขียวรสชาติต่างๆ น้ำผลไม้ คูลมิกซ์ รสผลไม้ ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่ทำออกมาเพื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือคนที่ไม่ชอบการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาเฟอีนจะได้มีทางเลือก นอกจากที่กล่าวมาข้างต้น ทางร้านก็ยังมีแผนคิดผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า และสร้างโอกาสให้ลูกค้าแฟรนไชส์ในการขายสินค้า

สำหรับช่องทางการขาย ทางคุณทอมมีได้ทำออกมาใน 2 รูปแบบ คือ การเปิดขายด้วยตัวเอง และการขายแฟรนไชส์แก่ผู้สนใจ โดยที่ผ่านมาได้เปิดร้านของตัวเอง จำนวน 2 สาขา และที่เหลือจะเป็นการขยายในรูปแบบของแฟรนไชส์ ทำเลส่วนใหญ่อยู่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และห้างสรรพสินค้า ส่วนราคาแฟรนไชส์อยู่ที่ 350,000 บาท จะได้อุปกรณ์ครบชุดพร้อมขาย และ 250,000 บาท สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการคีออสก์ หรือรูปแบบของทางเรา ลูกค้าสามารถออกแบบรูปแบบของร้านเองได้ ซึ่งหลังจาก 3 ปีไปแล้ว ลูกค้าจะต้องจ่ายค่ารอยัลตี 20,000 บาท และค่ามาร์เกตติ้ง 30,000 บาท โดยจะไม่มีการหักเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย

ทอมมีบอกเราว่า ไม่ได้คาดหวังเรื่องการขยายสาขาจำนวนมาก แต่ต้องการพัฒนาสาขาที่มีอยู่ให้แข็งแรง และก็ไม่ได้ต้องการขยายในรูปแบบของแฟรนไชส์มากนัก เพราะเป็นห่วงเรื่องของภาพลักษณ์ กลัวว่าลูกค้าแฟรนไชส์จะทำให้เสียหาย และย้อนกลับมาทำลายสิ่งที่เราได้สร้างมาทั้งหมด ดังนั้น ต่อจากนี้ไปเราคงมุ่งเน้นการขยายสาขาด้วยตัวเองมากกว่า อยากจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป แบบเน้นความยั่งยืนมากกว่า เพราะไม่ได้คาดหวังการเติบโตแค่เฉพาะในเมืองไทย แต่มีความคาดหวังที่จะสร้างแบรนด์ Tommy Ice เปิดตลาดในต่างประเทศให้ได้ด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม และการศึกษาตลาดในต่างประเทศ

ส่วนราคาขายในขณะนี้ อยู่ที่แก้วละ 35-40 บาท ขนาดภาชนะมี 2 ขนาด คือ แก้วขนาด 16 ออนซ์ และ 22 ออนซ์ ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง ซึ่งถ้าแฟรนไชส์ไปขายในทำเลที่ไม่ดีนักก็อาจจะลดราคาลงมาขาย 30 บาทก็ได้ แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละสาขา ส่วนผลตอบแทน กำไรอยู่ 200% โอกาสคืนทุน ถ้าขายได้วันละไม่ต่ำกว่า 200 แก้ว โอกาสคืนทุนไม่ถึง 1 ปี ปัจจุบันแต่ละสาขามียอดขายแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ 100 แก้วไปจนถึง 200-300 แก้ว หรือมากที่สุดการออกงานแสดงสินค้าเคยขายได้มากถึงวันละ 500 แก้ว
 

ธุรกิจขายสมุดโน้ตเงินล้านออนไลน์ Amazon KDP

ธุรกิจขายสมุดโน้ตเงินล้านออนไลน์ Amazon KDP
E-book “คำภีร์ขายสมุดโน้ตเงินล้านออนไลน์ ลงทุน 0 บาท สำหรับมือใหม่”
Back To Top